เทรนด์อสังหาริมทรัพย์ 2567 โดยข้อมูลจากกรุงเทพธุรกิจ เผยว่า เทรนด์อสังหาฯปี 2567
1. คอนโดเลี้ยงสัตว์ได้มาแรง !
จากกระแส "Pet Friendly" เป็นเทรนด์ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในทุกตลาดธุรกิจของประเทศไทย สืบเนื่องมาจากพฤติกรรมผู้บริโภคที่เลี้ยงสัตว์กันมากขึ้น และสัตว์เลี้ยงก็เปรียบเสมือนหนึ่งคนสำคัญในครอบครัวหรือ Pet Humanization ส่งผลให้แทบทุกดีเวลลอปเปอร์ต่างหันมาพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมที่สามารถรองรับการเลี้ยงสัตว์ได้ โดยเฉพาะน้องหมา น้องแมว เพราะมีผลต่อการตัดสินใจซื้อเพิ่มขึ้น
2. คอนโดปล่อยเช่า
ตอบโจทย์กลุ่มนักลงทุนที่ต้องการซื้อปล่อยเช่า โดยเฉพาะในทำเล มหาวิทยาลัย โรงเรียน ห้างสรรพสินค้า โรงพยาบาล รวมทั้งนิยมอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่มีกำลังซื้อ Win Win สำหรับคนซื้อและดีเวลลอปเปอร์ที่พัฒนาโครงการในภาวะกำลังซื้อเรียลดีมานด์เปราะบาง ที่มีปัญหาถูกปฎิเสธสินเชื่อสูงขึ้นถึง60-70% ขณะเดียวกันมีดีมานด์เช่าจากกลุ่มนิสิต นักศึกษา รวมทั้งคนทำงาน
3. เซอร์วิสอพาร์ทเมนท์
หลังจากดีมานด์ชาวต่างชาติที่กำลังจะกลับเข้ามาทำงานในประเทศไทย เนื่องจาก “ค่าเช่า” ถูกกว่าห้องพักโรงแรม และให้ความรู้สึกเสมือนได้รับบริการแบบโรงแรม กลุ่มเป้าหมายหลักคือชาวต่างชาติที่จะกลับเข้ามาทำงานในประเทศไทย (Expat) นักธุรกิจ และนักท่องเที่ยว ซึ่งต้องการเช่าที่อยู่อาศัยเซอร์วิสอพาร์ตเมนท์ จึงเป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ
4. ตลาดบ้านหรู
ที่มีราคาขายต่อหลังมากกว่า 20 ล้านบาท ทั้งนี้เนื่องจากเป็นกลุ่มลูกค้าที่กำลังซื้อสูงจึงได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจน้อย ทำให้ความต้องการบ้านหรูเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันเป็นกลุ่มลูกค้าที่ให้ความสำคัญกับพื้นที่ใช้สอย ทำเล มีดีไซน์เฉพาะตัว ประกอบกับซัพพลายน้อย เนื่องจากข้อจำกัดที่ดินหายากและราคาแพง ขณะที่ความต้องสูง ทำให้ผู้ประกอบการหลายรายหันมาพัฒนาโครงการบ้านหรู
5. ตลาดอสังหาฯหัวเมืองท่องเที่ยว
จากกระแสการกลับเข้ามาของนักท่องเที่ยวต่างชาติ แม้จำนวนนักท่องเที่ยวจีนจะไม่ได้เป็นไปตามคาด แต่ก็ได้กระตุ้นเศรษฐกิจเมืองท่องเที่ยวกลับมาคึกคัก ส่งผลให้อสังหาฯเมืองท่องเที่ยวส่งสัญญาณฟื้นตัว จากกำลังซื้อของคนในพื้นที่และธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับภาคบริการและการท่องเที่ยว รวมทั้งคนต่างชาติที่เข้ามา โดยเฉพาะกลุ่มรัสเซีย ที่เข้ามาซื้ออสังหาฯในภูเก็ต
6.เวลเนส เรสซิเดนท์
เป็นตลาดที่เติบโตอย่างรวดเร็วช่วง 5 ปีที่ผ่านมา จากจำนวนประชากรสูงวัยในสังคมเพิ่มสูงขึ้นเหยียบ 70 ล้านคน ประกอบกับผู้บริโภคหันมาใส่ใจสุขภาพในเชิงป้องกันมากกว่าการรักษา ส่งผลให้การพัฒนาที่อยู่อาศัยยุคใหม่มุ่งตอบโจทย์ด้านการดูแลสุขภาพแบบองค์รวมมากขึ้น ซึ่งไม่ได้จำกัดอยู่ในกรุงเทพฯ แต่ขยายไปในหลายพื้นที่รอบนอกในรูปแบบที่หลากหลาย อาทิ เขาใหญ่ หัวหิน ในรูปบบของบ้านที่รองรับกลุ่มสูงวัยที่มีอายุ 40-60 ปีขึ้นไป
7.อาคารสีเขียว
หรืออาคารประหยัดพลังงานมีความสำคัญที่ส่งผลต่อคน ชุมชน และสิ่งแวดล้อม ท่ามกลางสถานการณ์ที่โลกต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ (Climate Change) ที่เป็นผลมาจากก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดตามกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่สูงขึ้น
Credit กรุงเทพธุรกิจ
ปล.ในรูปหมาของแอดเองฮะ