เอเจนท์ที่ยังคิด แค่หาค่าคอมให้รอดเป็นเดือนๆ อาจจะมองเรื่องของ long term relationship เป็นเรื่องรอง แต่อย่าติดตรงนั้นนานค่ะ

วันนี้ต้องทำ Investment summary สำหรับพาร์ทเนอร์ที่อเมริกา เพื่อพานักลงทุนมาลงทุนที่กรุงเทพ

ระยะทางมันไกลแสนไกล ถ้าไม่ได้มีแผนจะมาอยู่เองแล้ว การเดินทางมาประเทศไทยจากอเมริกาซึ่งเป็นทริปที่เกิน 24 ชั่วโมง และไม่มีข้อมูลประกอบการตัดสินใจที่ชัดเจน

รวมทั้งผู้ดูแลการลงทุน และบริหารจัดการที่ไว้ใจได้ การลงทุนอสังหาฯในประเทศไทยสำหรับนักลงทุนอเมริกัน คงไม่ใช่ตัวเลือกอันดับต้นๆน่ะนะ แค่คิดก็เหนื่อยแล้วเนอะสำหรับการนั่งเครื่องบินข้ามวัน

ดังนั้น ทางเราก็ต้องรีดเค้นข้อมูล ตัวเลข สิ่งที่เรารู้ และเกิดขึ้นจริง นำมาเรียบเรียงให้ผู้สนใจลงทุนเข้าใจง่ายเมื่อมองเข้ามาในประเทศของเรา และนี่เป็นทิป สำหรับเอเจนที่อยากเดินสายอินเตอร์นะคะ

ใช่ เราขายอสังหาฯในประเทศ แต่ก็ต้องเข้าใจวิธีสื่อสาร ให้คนนนอกประเทศที่อาจไม่เคยมาที่นี่เลย ได้เข้าใจและเห็นเป็นโอกาสได้ค่ะ

ก่อนเริ่มเขียนงาน ก็ได้มีโอกาส catch up for lunch กับ fund manager ชาวญี่ปุ่น ประสบการณ์ Asset Management บ.ญี่ปุ่นระดับหลายพันล้าน (ที่ไม่ใช่บาทนะ) ก็ทำให้ตื่นเต้น และเรียนรู้สิ่งใหม่ทุกครั้งที่ได้พบกัน

ทุกประเทศ ทุกภูมิภาค มีข้อดี ข้อเสีย ในการลงทุน แตกต่างกัน ไม่มีที่ไหนดีที่สุด บางที่ Yeild ดี ดีมานด์สูง ซัพพลายต่ำ ห้องว่างทีคนต่อแถวดูห้องยาวเฟื้อย เหมือนจะดี แต่ข้อกำหนดของกฏหมาย ภาษี ที่ไม่เอื้อประโยชน์ให้นักลงทุน

ในประเทศที่มีเศรษฐกิจแข็งแรง อย่างออสเตรเลีย หรือภาวะเศรษฐกิจผันผวน ในประเทศที่ยังนับว่ามีความมั่งคั่งสูง แต่ดอกเบี้ยเงินฝากเป็น 0 อย่างญี่ปุ่น ก็ทำให้นักลงทุนออกหาแหล่งลงทุนในตลาดเกิดใหม่

อย่างประเทศไทย ฟิลิปปินส์ อินโดนีเชีย หรือแม้กระทั่งกัมพูชา ซึ่ง Yeild 3-4% ไม่รวม Capital gain จากมูลค่าที่เพิ่มขึ้นของทรัพย์ทุกปี นี่ก็ถือว่า โคตรดี แล้วสำหรับเขา

เชื่อเถอะ เงินมันต้องพัดไปไหนสักที่ แค่ต้องคิดนั่นแหละ ว่าทำไงให้มันพัดมาทางเรา

เนื่องจาก Fund manager พำนักในสิงคโปร์ แชร์ให้ฟังว่า ตอนนี้อสังหาฯสิงคโปร์ ร้อนแรงตลาดแตกมาก เพราะ Ultimate rich จากจีนแผ่นดินใหญ่ที่เคยพักเงินไว้ในฮ่องกง อดีต safe heaven ของเขา

ตอนนี้ย้ายเงินและครอบครัวมาตั้งรกราก จัดตั้ง Family fund เพื่อลงทุนในสิงคโปร์ตามนโยบายที่ชาญฉลาดของรัฐบาลที่เปิดกว้างสำหรับนักลงทุน และผู้มั่งคั่ง (ตัวจริง) ให้มาพำนักระยะยาวในสิงคโปร์ได้

ดังนั้น สิงคโปร์ในปัจจุบันจึงแน่นขนัดไปด้วยผู้ที่โยกย้ายมาอยู่ใหม่ ราคาบ้านเช่า ห้องเช่า รวมทั้งค่าครองชีพ ที่แพงอยู่แล้ว ก็ถีบตัวแพงขึ้นไปอีกเพราะความต้องการที่เพิ่มขึ้น ห้องเล็กๆ 70 ตารางเมตร ตอนนี้ 2,000+ SGD ไปเรียบร้อย...

บ้านเรา ไซส์เดียวกัน อยู่ทองหล่อด้วย จ่ายถูกกว่าเกือบสิบเท่า!

แพงแสนแพงก็ยังเป็นที่หมายของคนที่มีความมั่งคั่ง เลือกไปอยู่ เพราะเรื่องของความสะดวกสบาย ปลอดภัย Reliable เป็นเรื่องหลัก จะลงทุน จะจัดตั้งบริษัท ดำเนินการธุรกรรมอะไร ในสิงคโปร์ก็ได้ชื่อว่า So efficient! นั่นคือจุดแข็งของเขา

หันมามองบ้านเรา รัฐบาลทำอะไรอยู่นะ?

เอาเถอะบ่นรัฐบาลไป เราคงไม่รวย มาคุยเรื่องโอกาสสร้างธุรกิจต่อดีกว่า

ใช่เลยที่บ้านเรา โครงสร้างหลายอย่างยังต้องการการพัฒนา แต่ในระหว่างการพัฒนา ยังมีช่องทางอีกมากมายที่จะสามารถทำเงิน และเติบโตได้ในส่วนอสังหาริมทรัพย์ โดยไม่ต้องรอเป็น Developer ก่อน

เช่น จุดขายอื่นๆ ที่สามารถนำเสนอได้กับนักลงทุนรายบุคคล หรือ Fund ขนาดไม่ต้องถึง 100 Mil.USD. ที่ Manager ยังออกมาคุยกับเราๆตามท้องถนนได้

ได้มีโอกาสรู้จัก ซื้อขาย สร้างความไว้วางใจตั้งแต่เริ่มไซส์เล็กๆ และคิดไว้ได้เลยล่ะว่า วันที่เขาโตไปเป็นขนาดพันล้าน มันก็ต้องมีเราที่จะเติบโตไปด้วยกัน

และข้อดีของการลงทุนอสังหาฯในประเทศไทย สำหรับนักลงทุนรายย่อย ได้แก่

ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างสำหรับคอนโด ถูกมั่กๆ เมื่อเทียบกับค่าใช้จ่ายในการถือครองในประเทศอื่น

ภาษีรายรับ สำหรับผู้ให้เช่าอสังหาฯ รายเล็กๆ ถือไม่เกิน 20 ห้อง ก็บ่ต้องกังวลไรมาก ไม่ต้องกังวลอย่างไร (ไปหาทำการบ้านกันเอาเองเด้อ)

ค่าใช้จ่ายในการรีโนเวทคอนโด แง้มรายละเอียดให้ Fund manager ดู เขายิ้มกริ่ม สบายใจพูดได้แค่ Oh my god! Khun Oh, you are magic! Thats why I have to invite you for lunch ^^

และในขณะที่ทุกอย่าง เกี่ยวกับอสังหาฯ ยังไม่มีข้อมูลเป็น public โอกาสได้ทรัพย์ราคาดีเริ่ด เว่อร์ ใน secondary market ที่เป็นดีลลับ ดีล ออฟ มาร์เก็ต ยังมีอยู่ และเป็นโอกาสของนักลงทุน ที่ค้นหาดีลราคาดีๆ

ดังนั้น เอเจน ที่ขนาดฟาร์มิ่ง ขยันขุด ขยันคุยกับเจ้าของ ไม่ต้องกลัวอดตายค่ะ หาของดีๆไว้เถอะ เดี๋ยวผู้ซื้อมาเอง ถ้าหาผู้ซื้อยังไม่ได้ ดีลดีจริง มาคุยกันได้เลย ของดี พร้อมดันให้จบค่ะ

เอเจนที่ยังคิดแค่เป็นเอเจนเอาค่าคอมให้รอดเป็นเดือนๆ อาจจะมองเรื่องของ long term relationship เป็นเรื่องรอง เพราะยังอยู่ในโหมดเอาตัวรอด ซึ่งเข้าใจได้ เพราะคนเขียนก็เคยเป็นแบบนั้นมาก่อน แต่อย่าติดตรงนั้นนานค่ะ

ให้ใช้งานที่เรารักและอย่างตื่นขึ้นมาทำทุกวันนี้ ได้ขัดเกลา เปลี่ยนแปลงคลื่นความถี่ ให้ไปตรงกับ แหล่งเงิน แหล่งทุน และการเติบโตในระยะยาว ควรใช้เวลาในทุกๆวัน ทำตัวเองให้มั่นคง เรียนรู้ พัฒนาต่อเนื่องไม่หยุดยั้ง

ให้เป็นคนที่ใครๆก็นึกถึงเวลาจะซื้อ จะขาย หรือริเริ่มโปรเจคใดๆ นั่นแหละ จึงเรียกว่า สร้างตนเพื่อดึงดูดโอกาสและความเจริญ

ขอให้คนอ่านที่ตั้งใจพัฒนาตนเองทุกคน รวย รวย รวย แบบไม่ต้องบูชาเทพสามตาที่ไหนเลยค่ะ ปิ๊ง!