สรุปหลักคิด ในการทำธุรกิจนายหน้าอสังหาฯ แบบคนเดียว ที่กำลังเริ่มวางแผนเติบโต

1. เข้าใจตลาดของตนเอง เป็นเรื่องสำคัญอันดับหนึ่ง

การเข้าใจพื้นที่ เข้าใจผู้ซื้อ ผู้ขาย ที่ตนเองเชี่ยวขาญ จะเป็นการสะสมโอกาสทางธุรกิจในระยะยาว ได้ดีกว่าทำงานแบบหว่านแห กว้าง แต่ไม่ชัดเจนสักอย่าง เพราะสิ่งที่ผู้ขายต้องการ คือนายหน้าฯ ที่รู้ราคาขายในย่านที่ทรัพย์ตั้งอยู่

สามารถช่วยแนะนำการตั้งราคาที่ถูกต้อง และมีฐานข้อมูลว่าที่ผู้ซื้อที่เพียงพอที่จะช่วยปิดการขายได้โดยเร็ว ส่วนผู้สนใจซื้อในย่านนั้น รวมทั้งนักลงทุน ต่างก็มองหาคนรู้ลึก รู้จริง ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญในย่านนั้น มาให้ตัวเลือก และข้อมูลประกอบการตัดสินซื้อที่เพียงพอ

2. สะสมฐานข้อมูลลูกค้าให้ครบถ้วน ในรูปแบบที่นำมาใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ไม่ว่าจะเก็บข้อมูลลูกค้าในรูปแบบไหน ก็ต้องยึดหลัก ครบถ้วน นำมาใช้งานได้ ชื่อเต็ม เบอร์โทร อีเมล์ อย่างน้อยต้องครบ ไม่มีทุนซื้อ CRM ดีๆใช้ แต่เก็บข้อมูลลูกค้า ในรูปแบบ Excel ก็ยังเอามาส่ง Bulk email โดยใช้ Mailchimp ได้มีทรัพย์ดีๆ เข้ามา

ควรสามารถส่งข้อมูลให้ลูกค้าที่สะสมไว้ไปร้อยเป็นพัน ได้ในเวลาไม่กี่วินาที ทำใหม่ๆ มีฐานข้อมูลหลักร้อย อาจยังไม่พอเป็นโอกาสในการปิดขาย

แต่ถ้าขึ้นหลักพันเมื่อไหร่ โดยเฉพาะลูกค้าที่รู้จักกันอยู่แล้ว โอกาสได้ว่าที่ผู้ซื้อ หรือปิดได้บนอากาศสูงมาก บางคนชอบไปงาน Agent Day เห็นทรัพย์สวยๆ แต่ Dev ไม่ให้ลงโฆษณา ก็สามารถขายได้กับ Database นี่ล่ะค่ะ

และลูกค้าดีๆ ควรได้รับการทักทาย อัพเดตจากเราอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อย เดือนละ 1 ครั้ง

3. เกมส์ Buyers agent เหมาะกับคนชั่วโมงบินสูง

นายหน้าฯใหม่ๆ โดยเฉพาะย่านที่มี inquiries เยอะๆ มักเข้าใจว่า ควรอยู่ฝั่งผู้ซื้อสิ เพราะโอกาสเยอะกว่า ถูกต้องค่ะ ถ้าคุณรู้จักทำเล ทรัพย์แถวนั้น ดีพอ มากพอ ที่จะทำให้ลูกค้ายอมไปดูทรัพย์กับคุณจนหนำใจไร้ข้อโต้แย้งจนปิดได้

รู้วิธี Handle ลูกค้าไม่ให้ฟุ้งมากไป จนโฟกัสอะไรไม่ได้ ประเภทดูเยอะ แต่ไม่มีทิศทาง หมดแรงกันทั้งผู้ซื้อทั้งนายหน้าฯ แต่ไม่เข้าใกล้เส้นชัย มีโอกาสนอกใจไปกับคนอื่นสูง เพราะคุณช่วยเขาประหยัดเวลาไม่ได้

หรือการคัดกรองไม่เป็น ก็ต้องทำงานเหนื่อยฟรี วิ่งตามคนที่ไม่พร้อมซื้อก็มีให้เห็น
Buyers agent ต้องเร็ว รู้เยอะ และเฉียบ เพราะเกมส์เปลี่ยนตลอด ทำงานช้าลูกค้าก็หลุด ถ้ายังใหม่ ให้เวลากับการทำงานพื้นฐานแบบ Sellers agent ก็สามารถพัฒนาตนเองให้เป็นมืออาชีพ และมีรายได้เป็นกอบเป็นกำไม่แพ้กัน

4. อย่าวางใจเครื่องมือทางการตลาดชนิดใดให้มากนัก

ถ้าวันนี้ไฟดับ อุปกรณ์ดิจิทอลใดๆ ใช้การไม่ได้เลย หรือราคาโฆษณาแพงจนจ่ายไม่ไหว แต่คนก็ยังต้องซื้อขายบ้าน และเรายังต้องกินข้าว

คุณก็ต้องมีเครื่องมือที่หลากหลาย ที่ทำงานได้ทุกสถานการณ์ โดยเฉพาะเวลาวิกฤตหรือขาดแคลน ที่ใครๆ ก็กลัว เพราะเวลานั้น นักลงทุนที่ซื้อง่าย ซื้อเร็ว จะออกล่าดีล! และเขาควรซื้อกับคุณ!

การลงทุนกับการสร้างความไว้วางใจให้ลูกค้า ไม่ว่ามันจะเรียกว่า Personal branding หรืออะไร แต่จุดมุ่งหมายคือให้ลูกค้า จดจำ และเลือกทำงานกับคุณ

การมีวิธีดึงดูดลูกค้าที่หลากหลาย ก็หมายถึงโอกาสที่เหลือเฟือ และไม่กดดันตัวเองจนเกินไปนัก

5. บริหารการเงินให้ดี

ปิดได้ ไปเที่ยว หน้าเหี่ยวตอนเงินหมด เป็นเรื่องคลาสสิคของนายหน้าฯ เงินรับมา ต้องบริหารทันที มีบาทเดียวก็ต้องบริหาร ไม่ต้องรอรับเงินหมื่นเงินแสนแล้วค่อยจัดการ เพราะมันไม่เคยทันจะ 6 jars 10 jars ก็ต้องแบ่งเงินเป็นส่วนๆให้ได้

เงินลงทุนโฆษณา เงินที่ใช้ในการเดินทางทำงาน ต้องเต็มเสมอ ไม่งั้นจะเอาทุนที่ไหนไปต่อยอด เที่ยวได้ แค่พอหายเหนื่อย ไม่ฟุ้งเฟ้อ เพราะหนทางยังอีกยาวไกล

บางคนอยากเป็นนักลงทุน จึงมาฝึกงานเป็นนายหน้าฯ ก็ต้องฝึกใช้เงินแบบนักลงทุน เพราะตัวจริง เขามองระยะยาว อดทนได้ รอได้ เขาจึงร่ำรวยและประสบความสำเร็จ คนรวยทุกคนที่สร้างเนื้อสร้างตัวมาได้ และมีธุรกิจเติบโตนั้น ประหยัดและระมัดระวังเรื่องเงินทุกคน

คิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์กับผู้อ่านนะคะ