เกี่ยวกับคนเขียน
Naowarat

ความรู้

ความรู้

ใกล้ปีใหม่แล้ว อยากเขียนเพื่อเป็นของขวัญเตือนใจคนอยากมีบ้านหลังแรก 🏠

Naowarat
วันที่สร้างประกาศ เวลาสร้าง 18 ธันวาคม 2566 11:18
ใกล้ปีใหม่แล้ว อยากเขียนเพื่อเป็นของขวัญเตือนใจคนอยากมีบ้านหลังแรก ให้ได้มีบ้านสมใจ ส่งได้ตลอดรอดฝั่ง ไม่ก้าวพลาดเป็นหนี้เสีย มีชีวิตที่สุขสงบร่มเย็นกับบ้านใหม่ ที่จะได้เป็นมรดกลูกหลาน และงอกเงยเป็นการลงทุนในหลังต่อๆไปด้วยค่ะ
ทุกคนอาจเห็นว่าโอ๋ทำเคสต่างชาติเยอะ คงไม่สนใจ หรือรู้อะไรเกี่ยวกับการขายบ้านหลังแรกให้ลูกค้าใช่ไหมคะ
พูดอีกก็ถูกอีกค่ะ ที่เลือกทำงานกับต่างชาติ เพราะเป็นความสนใจส่วนบุคคล
ต้องการทำงานกับผู้คนที่หลากหลาย แต่ไม่เคยลืมการตอบแทนคนไทยในบ้านเดียวกันค่ะ ครั้งใดที่ได้ขายบ้านให้ผู้ซื้อบ้านหลังแรก หัวใจมันสั่นสะเทือน เหมือนได้เป็นเกียรติ เป็นส่วนหนึ่งกับก้าวสำคัญในชีวิตของเขา
แต่สิ่งที่ตามมากับคนที่มีรายได้และประสบการณ์ชีวิตที่ไม่สูงมาก คือความผิดพลาด ซึ่งพลาดกับบ้านมันคือเรื่องใหญ่ ที่อาจทำให้บ้านแตกสาแหรกขาด และเสียบ้านได้ในที่สุด เห็นโพสยกคอนโดให้ไปผ่อนกันฟรีๆ เพราะผ่อนต่อไม่ไหวแล้วในเฟซบุคก็ใจหาย เขาคิดเหรอว่า ทำอย่างนั้นแล้วปัญหามันจะจบ บางคนเอาเงินพ่อแม่มาดาวน์บ้าน คอนโด จะหาไปคืนเขาอย่างไร
โอ๋ก็เคยเป็นหนี้ท่วมหัว โดยไม่จำเป็นเพราะเรื่องบ้านและการขาดความรู้เรื่องการเงินนี่ล่ะค่ะ แลกบทเรียนมาด้วยความเครียด สยองขวัญสั่นประสาท เสี่ยงต่อการเสียบ้าน เสียหัวใจและความเชื่อมั่นของคนที่รักอยู่นานเหลือเกิน กว่าจะปิดหนี้ได้หมด และไม่อยากให้ใครเจอเหมือนเราอีก จึงอยากแบ่งปันไว้ตรงนี้ สำหรับคนที่อยากมีบ้าน คอนโดหลังแรกค่ะ
1. ตั้งสติ มีหนี้เมื่อพร้อม เท่านั้น
เป็นปกติสำหรับคนรายได้ยังน้อย ประสบการณ์ยังน้อย จะถูกดึงความสนใจด้วยความสวยงามของห้องตัวอย่าง ราคาจองและดาวน์ต่ำๆของโครงการที่มาเปิดใกล้หอเดิม ใกล้ที่ทำงานปัจจุบัน และพอดีสลิปเงินเดือนเรายังสะอาด ทำให้เราตัดสินใจ "ซื้อดีกว่าเช่า" ตามที่เซลโครงการ และพี่ๆในออฟฟิศว่า

แต่อย่าลืมนะคะว่า ห้องนอนที่เราเช่าอยู่ 4-5 พันนั้น ทำให้เรายังมีเงินเหลือในการใช้ชีวิตอย่างคล่องตัว มีเงินส่งให้ที่บ้าน เติมเงินค่าโทรศัพท์ ไปเที่ยวกับเพื่อนๆได้บ้าง เราไม่เครียดมากนัก แต่ถ้าเราเริ่มส่งบ้าน ถึงแม้ปีแรกๆ ดอกเบี้ยจะถูก แต่ค่าผ่อนบ้านรายเดือนก็มักจะดีดขึ้นไปเป็นหลักหมื่น ซึ่งอาจหมายถึง 1ใน3 ของรายรับ

และมีใครในที่นี้ ตรวจตารางผ่อนของแบงค์ก่อนทำสัญญาบ้าง? เชื่อว่าไม่มีหรอกค่ะ ไม่งั้นจะมีดราม่า แบงค์โหด ตัดแต่ดอกไม่ตัดต้นรึ ทั้งๆที่เขาก็ปริ้นให้ดู หนาเป็นปึ๊งๆ ตั้งแต่เริ่มทำสัญญา เช็คดูค่ะ ว่าเราไหวไหม?

ถ้าไม่เคยตัดใจเก็บเงินก้อนใหญ่ๆ รัดเข็มขัดตัวเองแน่นๆ ก็เหมือนคนไม่เคยยกน้ำหนัก จู่ๆมายกลูกเหล็ก 20 กิโลกรัม ในขณะที่ยังมีกล้ามเนื้อนิดเดียว มันไม่ง่าย และทำให้คุณเครียด เกินความจำเป็น เมื่อใดที่เครียด สมองและการตัดสินใจก็ไม่ดี มันจะพาลให้ระบบรายรับรายจ่ายคุณเริ่มแย่ หากปรับตัวไม่ได้ผ่อนไปไม่กี่เดือน ก็จะเริ่มไม่ไหว

จะดีกว่าไหม หากซ้อมผ่อนบ้าน ด้วยการหักเงินรายได้ ก่อนนำไปใช้จ่ายเรื่องใด เก็บ30% เป็นค่าบ้าน ฝึกเก็บเงิน ระลึกถึงการเรียกเงินกลับเข้ากระเป๋าให้เคยชิน ก่อนการจ่ายทุกอย่าง เช็คดูสิว่า เราไหวไหม แย่สุดถ้าในหกเดือน เกมส์นี้เราแพ้ เราก็แค่มีเงินเก็บเพิ่มเป็นก้อน แต่ถ้าทำสัญญากู้ธนาคาร ลากพี่น้องมากู้ร่วม เอาเงินแม่มาดาวน์ คุณต้องเป็นหนี้จริงๆ ไปอีก 30 ปี ทีนี้ล่ะ ฝันร้ายของจริง
2. รักษาเครดิต และตรวจ Pre approve กับธนาคารก่อนช้อปปิ้งบ้าน จะทำให้คุณซื้อบ้านได้ในราคาที่ดี
ร้อยละ 99.99 ของคนไทยที่เดินไปดูโครงการบ้าน ไม่ทำ pre approve และไม่รู้จักด้วย

สิ่งนี้เป็นการประเมินศักยภาพในการเป็นหนี้ของคุณค่ะ เงินเดือนเท่านี้ คุณจะซื้อบ้านได้เท่าไหร่ ผ่อนเดือนละประมาณเท่าไหร่ ซึ่งถ้าทำกับธนาคารที่คุณรับเงินเดือน จะมีความน่าเชื่อถือเกือบ 95% ที่จะกู้ผ่าน หากคุณตัดสินซื้อ และสามารถจบกระบวนอนุมัติการกู้ได้ใน 2-3 สัปดาห์ คิดเรื่องกู้ให้ผ่าน ก่อนข้ามไปขอดอกเบี้ยถูกนะคะ

ทำพรี แล้วดีอย่างไร?

ไปโครงการไหน เซลก็ชอบค่ะ เพราะคุณคือคนที่มีกำลังซื้อ มีเงินเดือนที่เพียงพอ และพร้อมในการผ่อน การต่อรองราคาขอโปรต่างๆ จะได้รับการจัดให้อย่างเต็มที่ ขอให้ซื้อกับเขาเถอะ

แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือ คนไทยส่วนมากไม่รู้เรื่องนี้ ถามเรื่องการเงินก็ไม่บอกหรอกค่ะ "ผ่อนได้อยู่แล้วค่ะ กู้ได้อยู่แล้วค่ะ" แต่สุดท้ายกู้ไม่ผ่าน เสียเงินจอง เสียเวลา
3. หาข้อมูลเปรียบเทียบ ราคา และบ้านทั้งมือหนึ่งมือสองในทำเลให้ครบถ้วน ก่อนซื้อ
ไม่มีใครรู้หรอกค่ะว่า เราจะได้อยู่บ้าน หรือคอนโดที่เราซื้อไปตลอด หากเราเปลี่ยนที่ทำงาน ย้ายครอบครัว ต้องขายบ้านเพื่อเอาเงินไปใช้ตั้งถิ่นฐาน หรือเพื่อการอย่างอื่น บ้านเราต้องขายได้ และดีที่สุดคือไม่ขาดทุน

บ้านโครงการ หรือคอนโดใหม่ มีแนวโน้มราคาสูงกว่าบ้าน คอนโดมือสอง เพราะราคาที่ดินที่เขาซื้อมาแพงกว่า อย่าหลงไหลไปกับความสวยงามอย่างเดียวนะคะ ถ้าราคามันแพงกว่าเพื่อนบ้านมากๆ ให้คิดไว้ว่า ถ้าวันหนึ่งจำเป็นต้องขาย ใครจะซื้อบ้านคุณ?

"บ้านชั้นสวยกว่า ใหม่กว่านะ บิ้วอินเยอะ ก็ต้องแพงกว่าบ้านมือสองแถวนี้อยู่แล้วล่ะ"

แต่อย่าลืมนะคะว่า อีกไม่กี่ปี บ้านคุณก็จะเก่าเหมือนกัน แล้วคนในอนาคต ทำไมเขาต้องซื้อบ้านคุณด้วย ในเมื่อแพงกว่าบ้านหลังอื่นตั้ง 20-30% ถามตัวเองเลยว่า ถ้าคุณเป็นผู้ซื้อ ณ เวลานั้น คุณจะซื้อบ้านตัวเองไหม? เพราะอะไร?

ถ้าตอบไม่ได้ และเงินเย็นไม่พอที่จะปล่อยบ้านไว้ให้นกพิราบอยู่ตอนคุณย้ายไปโดยไม่เดือดร้อนแล้ว การซื้อบ้านมือสอง ราคาดีๆ มารีโนเวท เป็นตัวเลือกที่ดีค่ะ
แต่คนที่มีบ้านหลังแรก ไม่ค่อยทำหรอกค่ะ อาจจะขาดความรู้ และมันเป็น "กรรม" ค่ะ ที่ทำให้หูตาพร่าพรายไปกับความสวยงาม และตกเป็นทาสการตลาด เราเลยมีหนี้ครัวเรือน หนี้ NPL และดราม่าบ้านบังคับคดีที่ไม่ยอมย้าย และทะเลาะ ทำร้ายเจ้าของใหม่ให้เห็นเป็นข่าว

เอาแค่ สามข้อพอค่ะ เดี่ยวคนบ้านหลังแรกจะไม่อ่าน 😄😄 เพราะมันยาวเกินความสนใจเขาแล้ว

สิ่งที่แตกต่างระหว่างคนไทย กับต่างชาติ ที่เห็นชัดๆในการซื้อบ้าน คือ ต่างชาติจะหาข้อมูลประกอบการตัดสินใจเยอะมากก่อนซื้อ โดยเฉพาะชาวตะวันตก หรือแม้แต่ชาวจีนที่เห็นเขาซื้อกันโครมๆนี้ ก็ดูเยอะ และต่อราคาแหลกราญ เพื่อให้ได้ดีลที่ดีที่สุด

ส่วนคนไทย เน้นแบรนด์ และความสวยงามมาเป็นอันดับต้นๆ การหาข้อมูลเปรียบเทียบ และการตั้งคำถามเกี่ยวกับทรัพย์ น้อยมากๆ

ไม่ได้บอกว่าใครดีกว่าใคร แต่อยากให้เราคนไทย ใช้สติและเหตุผลมากๆ ก่อนตัดสินใจเป็นหนี้ ก้อนที่ใหญ่ที่สุดในชีวิตค่ะ

ขอให้ผู้อ่าน มีความสุข ปลอดหนี้ มีบ้านดีๆ อยู่อาศัย ทุกท่านทุกคนค่ะ

หัวข้อที่เกี่ยวข้อง

ดูหัวข้ออื่นเพิ่มเติม