เกี่ยวกับคนเขียน
Naowarat

ความรู้

ความรู้

😓 เอเจนท์ จะอยู่ได้อย่างไร ในยุคที่ใครๆก็อยาก disrupt อาชีพเรา?

Naowarat
วันที่สร้างประกาศ เวลาสร้าง 10 กุมภาพันธ์ 2567 17:11
ในยุคที่เทคโนโลยีเป็นใหญ่ ใครเก่งด้านนี้ มีทุนหนา ก็สามารถเติบโต แทรกแซง อุตสาหกรรมแบบดั้งเดิมได้อย่างรวดเร็ว

บ้านเรา ใครก็เป็นเอเจนได้ ไม่ต้องมีใบอนุญาต ไม่ต้องเรียน แค่มีหลักฐานว่าชี้ช่องให้ผู้ซื้อผู้ขายเข้าทำสัญญา เอเจนก็มีสทธิ์ได้ค่านายหน้าตามกฏหมายแล้ว

เงินรายได้จากอสังหาฯมันก้อนใหญ่ ใครก็อยากได้ จึงมีผู้เล่นทุกขนาดเข้ามาเต็มไปหมด เอเจนอิสระ, SME, Franchise, Global brand, PropTech

เราที่เป็นเอเจนอิสระ หรือเอเจนซี่ SME ก็เคยกลัวแค่ Global brand จะมาทำให้เราหากินยาก แต่จากนั้นเฟรนไชส์ นายหน้าอสังหาฯจากต่างประเทศก็ตบเท้าเข้ามาสร้างการแข่งขัน ที่เข้มข้น ดุเดือดในตลาดอีก ด้วยระบบการทำงาน ความรู้และเทคโนโลยี CRM ที่ก้าวหน้ากว่า

ในยุคต่อมาบรรดา Agencies ที่เป็นบริษัทลูกของ Developers ก็เปิดตัวมาร่วมปาดชิ้นเค้กที่เขามี unfair advantage โดยตรงออกไปอีก

และในขณะที่เอเจนจ้าวเล็ก กังวลใจกับทะเลที่กำลังแดงเดือดได้ไม่เท่าไหร่ เราก็เจอเข้ากับฝูงปลาวาฬ PropTech ที่เก่งทั้งเทคโนโลยี และมีทุนสนับสนุนที่หนามากๆ กวาดทั้งเอเจนไปเข้าสังกัด และลีดผู้ซื้อผู้ขายเข้าไปใน Database ของเขาอย่างมหาศาลแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อน
แล้วเจ้าเล็กอย่างเราจะเอาอะไรไปสู้?
อยู่ไม่ไหวก็เลิกทำ หรือขายต่อให้ปลาวาฬมา takeover ไปซะ

ซึ่งตอนนี้ หันไปทางไหน ก็เห็นเอเจนซี่เล็กๆกลายเป็น ส่วนหนึ่งของบริษัท PropTech แล้วเต็มไปหมด

เพื่อนรุ่นเก่าๆที่เริ่มอาชีพมาพร้อมๆกัน ปิดบริษัท ย้ายทีม ย้ายDatabase เข้าร่วมเป็นผู้บริหารบริษัทเหล่านั้น ไปแล้วก็มาก เพราะสู้ค่าใช้จ่ายที่สวนทางกับอัตราปิดขาย ปิดเช่า ไม่ไหว ยอมใช้ความรู้ความชำนาญที่สร้างมา ไปร่วมสร้างทีมยักษ์ใหญ่กับเขาดีกว่า

มันเกิดขึ้นที่ประเทศไทยที่เดียวเหรอ? ที่บริษัท PropTech เข้ามา Nominated ตลาด

สิงค์โปร์ใกล้บ้านเราก็เป็น ค่ะ อันดับ 1 เอเจนซี่ที่ใหญ่ที่สุดในสิงค์โปร์ แถม listed แล้วด้วย คือ PropNex ซึ่งเป็น Tech company เหมือนกัน มีเอเจน 8000 คน

ประเทศเล็กแค่นั้น อสังหาฯก็แสนแพง ค่านายหน้าตามธรรมเนียม 2% ก็แย่งกันจะเป็นจะตาย และขายก็ยาก จนบริษัทเอเจนซี่ในสิงค์โปร์ ถึงกับต้องหาช่องทางหาทรัพย์ในต่างประเทศไปให้เอเจนของตัวเองได้ขาย

ถ้าไม่งั้นก็ไม่มีใครอยากอยู่ด้วย
เอเจนสิงคโปร์ มีใบอนุญาตทุกคน และทุกเคสต้องทำธุรกรรมผ่านบริษัท ตลาดเขา Advance กว่าเรามาก

เรื่องเรียน เรื่องอบรม เรื่องการสู้ยิบตา ทุกคนที่สร้างรายได้ต่อเนื่อง คนประเทศนี้เขาทำเต็มที่อย่างไม่ต้องสงสัย
แต่แค่เก่ง และมีใบอนุญาต จะหยุดการ Disruption ได้ไหม? ไม่ได้หรอกค่ะ ยังไงโลกก็ต้องเปลี่ยนไป
Hutton, ERA, Orange Tee เคยเป็น Top3 เอเจนซี่ที่ใหญ่ที่สุดในสิงค์โปร์ แต่ตอนนี้ ก็ถูกเลื่อนตำแหน่งลงมาด้วย PropNex เป็นที่เรียบร้อย

เอเจนในปัจจุบัน ทำงานที่ไหนก็ได้ เรียนรู้ ฝึกอบรมที่ไหนก็ได้ ดังนั้น เอเจนซี่ไหนยังสู้ด้วยกลยุทธ์เดิม แค่มีสำนักงานดีๆให้นั่ง มี facilities ให้ใช้ มีครูสอนงาน มี slot ในเวปให้ลงโฆษณา มีที่ปรึกษาการทำธุรกรรม แล้วหวังว่าจะมีเอเจนมาทำงาน แชร์ส่วนแบ่งค่านายหน้าให้ มันยากแล้วค่ะ เพราะหากไม่มีเทคโนโลยีที่ส่ง leads ให้อย่างจุใจ เอเจนเขาก็ไม่อยู่ด้วย

และกลยุทธ์ “เยอะเข้าว่า” คุณไม่มีทางสู้เขาไหวหรอก
ผู้เขียนเชื่อว่า ขณะนี้ บริษัทเอเจนซี่และเอเจนอิสระที่ยึดอาชีพนี้เป็นอาชีพหลักก็นอนคิดทุกคืนว่า เราจะฝ่าฟันความท้าทายนี้ไปได้อย่างไร และหลายคนคงมีคำตอบให้ตัวเองแล้ว
ถ้ายังอยากซื้อขายในตลาดเดิม ต้องหาลูกค้าประจำของตัวเองให้เจอ เปรียบเทียบเหมือนกับ ถนนสุขุมวิท มีร้านสตาร์บัคส์เป็นสิบๆสาขา แต่ก็ไม่ใช่คนทุกคนจะดื่มกาแฟสตาร์บัคส์

ส่วนแบ่งทางการตลาดยังมีเหลือเฟือให้กาแฟร้านเก๋ๆ สำหรับไปถ่ายรูปลงไอจี ร้านสไตล์ Artisan นั่งชิล นั่งทำงาน หรือแม้แต่ร้านป้าสามล้อกาแฟชง ก็ยังมีลูกค้า

ซึ่งมันขึ้นกับว่า คุณวางตัวเองอยู่ตำแหน่งไหนในตลาด หาช่องว่างที่พอดีกับความเชี่ยวชาญของตัวเองให้เจอ แล้วเติบโตในช่องว่างนั้น

สำหรับความเห็นส่วนตัวนะคะ การขยายสเกลธุรกิจด้วยการเพิ่มคน ในการ Operation วันนี้อาจช้าไปแล้ว เพราะ turnover rate และ ต้นทุนรีครูทคนก็สูงมาก เจ้าของเอเจนซี่อาจต้องหาวิธี leverage รายได้ด้วยหนทางอื่น

ซึ่งอาจเป็นการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ของตัวเอง การเช่าต่อเพื่อการบริหาร และทำกำไร เป็นต้น

มีวิธีมากมาย ในการทำเงินกับอสังหาฯ

ถ้าการเป็นเอเจน ขาย เช่า มันง่าย ใครก็ทำได้ เราก็อย่าอยู่ตรงนี้นาน

หากเมื่อมีทักษะ และช่องทางที่มากกว่าคนใหม่ๆแล้ว ตัวเราก็ต้องปรับเปลี่ยน หาเส้นทางใหม่ ที่สบายใจ ได้เงินดีสำหรับตัวเรา เรียกว่า Self Disrupting เสียก่อนที่จะถูก Market Disruption

โดยไม่ต้องเสียพลังงานไป โมโหคนอื่น หรือโมโหตัวเอง เวลาหันไปดูชาวบ้านเขาขยายตัว รวยเอาๆ และคิดเอาว่าเป็นเพราะพวกเขา ทำให้เราลำบาก
เพราะทุกคน มีช่องทางที่เหมาะกับตัวเองเสมอ

หัวข้อที่เกี่ยวข้อง

ดูหัวข้ออื่นเพิ่มเติม