เกี่ยวกับคนเขียน
Naowarat

ความรู้

ความรู้

เมื่อเกิดวิกฤต นั่นคือโอกาสดีที่ทำให้เราเดินได้ช้าลง และได้มีโอกาสถามตัวเองว่า “เรากำลังทำอะไรอยู่?”

Naowarat
วันที่สร้างประกาศ เวลาสร้าง 17 กุมภาพันธ์ 2567 23:05
“อะไรคือความหมายในการมีชีวิตของเราในทุกๆวัน?”
ช่วงนี้หันไปหาเพื่อนเอเจนในตลาดสุขุมวิท ก็เจอว่าลูกค้าไม่ค่อยมี แต่ห้องมันถูกเช่าไปนะ แปลว่าอะไร?

ลูกค้ามีแต่มันไปอยู่กับคนอื่นมากจนมาไม่ถึงเอเจนรายเล็กๆอย่างเราแล้วจริงๆหรือ?

บางคนรู้สึก บางคนไม่รู้สึก คนที่ทำนอกทำเลกลางเมืองอาจจะเฉยๆ ยังอยู่ได้ แต่โซนกลางเมืองนี่เจอกันเต็มๆ อย่าว่าแต่ lead ฟรีๆจากเฟสบุ๊คเลย ลงประกาศไปทุกช่องทาง เวปที่เคยจ่ายเงินไว้ เงียบ!สนิท…

มันเกิดอะไรขึ้น?

บางทีเครื่องจักร lead generation ของเจ้าใหญ่อาจดึงลูกค้าไปได้เยอะจริงๆ

บางทีพระเจ้า Algorithm ในเฟสบุค อาจจะจริงจังกับคนค้าขายรายเล็กที่หากินด้วยการโพสมือ เอาlead ฟรี บี้ให้เราไปจ่ายเงินให้เยอะขึ้น เลยปิดแอคเคาน์ที่เคยเป็นช่องทางหากิน และตัดสายเลือดเส้นเล็กๆที่เคยส่งรายได้ให้เราเป็นการกดดันให้จ่ายมากขึ้น

และหรือ บางที ถ้าเราโชคดี ไม่เจอเรื่องพวกนี้เลย แต่อีกไม่นานหุ่นยนต์ หรือ Ai ก็อาจจะทำงานแทนเอเจนได้แล้ว

มันบ้าบอ น่ารำคาญใจ และเราไม่อยากให้เกิดขึ้นจริง
"ไม่หรอก คนซื้อขายอสังหาฯ ยังต้องการคุยกับคน ถ้าไม่ไว้ใจ มันจบดีลไม่ได้นะ"
แต่เห็นด้วยไหม? อะไรที่ไม่เคยเกิด มันเกิดขึ้นมาแล้วทั้งนั้น

ยี่สิบกว่าปีก่อน ใครจะคิดว่าเราจะซื้อเสื้อผ้าออนไลน์ ที่ไม่ได้ลอง ไม่ได้วัดตัว ไม่รู้จักกัน แถมต้องโอนเงินให้กันก่อนด้วย

ดูวันนี้สิ ชีวิตเราซื้อทุกอย่างได้จากออนไลน์ โดยไม่ได้มีแม่ค้ามานั่งตอบคำถาม โน้มน้าว อธิบายเราตลอดเวลาเหมือนตอนไปซื้อที่ตลาดด้วยซ้ำ

แล้วทำไมวันหนึ่ง ในอนาคต คนจะซื้อขายบ้านผ่านออนไลน์ไม่ได้!?

เราเคยเชื่อว่า อสังหาริมทรัพย์คืออุตสาหกรรมหลักที่ขับเคลื่อนประเทศ เพราะมีการจ้างงานจำนวนมาก เอเจนยังเกาะกระแสหากินกับการซื้อมาขายไป เป็นตัวกลาง เป็นตัวช่วยเจรจาทำการตลาด ช่วยเหลือบริการทำโอนอยู่ได้อย่างไม่รู้จบสิ้น เพราะคนยังต้องซื้อบ้าน!?

ลองไปอ่านข่าวเศรษฐกิจจีนสิ รัฐบาลเริ่มผ่อนคลายการสนับสนุนอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ของเขาแล้ว ถึงแม้จะเป็นอุตสาหกรรมหลักที่ก่อให้เกิดการสร้างงานอย่างมหาศาลก็ตาม และเริ่มให้ความสำคัญกับแนวโน้มอุตสาหกรรมใหม่ๆ ลดการอุ้ม การแบก เพราะปัญหาสร้างจนล้น สร้างแล้วปั่นราคา สร้างแล้วคนไม่ได้ใช้อยู่ได้จริงๆ หน้าตาปัญหา คล้ายๆกับบ้านเรานั่นแหละ สร้างจนล้น
“นั่นมันโครงการใหม่ เราขายบ้านมือสอง ไม่โดนหรอกน่า…”
เคยได้ยินไหม? เทรนด์คนรุ่นใหม่ นิยมเช่ามากกว่าซื้อ หรือหากอยากซื้อก็ซื้อยากขึ้นเพราะเงินดาวน์ เงินเดือนไม่พอผ่อน

“งั้นก็ไปขาย Luxury สิ Developers ก็หนีเรื่อง reject rate ไปสร้างบ้านหรู คอนโดหรูขายกันทั้งนั้น” Luxury segment เองก็ยังค้างสต๊อกกันบานเบอะ ต้องใช้เวลาระบายอีกอย่างน้อย 3ปี แล้วคุณจะเอาไปขายใคร?

ถ้าจะเล่น segment นี้ เริ่มหาลูกค้าหรือยัง? หาที่ไหน? หาอย่างไร? ฝากความหวังแค่กับลูกค้าจีน ลูกค้าพม่า รัสเซีย ทีมีลอยๆหลุดๆมาถึงมือแค่นานๆครั้ง จะไหวไหมในเมื่อต้องกินต้องใช้ทุกวัน?
โลกเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา
วันนี้ คลื่นยักษ์ยังมาไม่ถึงประตูบ้าน แต่รับรู้ได้ถึงแรงกระเพื่อมแล้ว ก็ควรต้องเตรียมพร้อมรับการเปลี่ยนแปลง เพราะมันไม่เคยมาครั้งเดียวแล้วหาย

การเปลี่ยนแปลงในสเกลที่ใหญ่ระดับโลกมันมาใหญ่ และหลายลูกติดๆกันแบบไม่ค่อยให้เราได้พักเลยด้วยซ้ำ

ไม่ได้แปลว่า อาชีพของเราจะถูกลบหายไปอย่างรวดเร็ว ทันทีทันใด เพราะเทคโนโลยีเข้ามาแทนที่ แต่คนที่ตั้งใจอยู่ และเชื่อมั่นว่ามีคุณค่าจากฝีมือ ความรู้ ที่จะมอบให้ลูกค้าต่อไปได้ในระยะยาว

ก็ต้องเร่งพัฒนาตัวเองให้ทำงานในระดับที่มีคุณค่าสูงขึ้น ที่ไม่ใช่แค่ขายสินค้ามูลค่าสูงขึ้น แต่ต้องคิดแบบนอกกรอบ คิดให้ตัวเองโต เพราะ Self employ ที่ทำทีก็ได้เงินเยอะๆที และหยุดทำก็ไม่มีเงินนั้น อาจจะไม่แข็งแรงพออีกต่อไป

ส่วนคนใหม่ เพิ่งเข้ามา เพิ่งทำ ยังฝันหวานว่าเป็นเอเจนหาเงินง่าย และคุณเพิ่งหนีตายมาจากการถูกให้ออกจากงาน เพิ่งเปลี่ยนอาชีพมา ยังตื่นเต้นกับการได้จับเงินหมื่น เงินแสนที่สร้างได้ด้วยตนเองเป็นครั้งแรกๆ

ก็อย่ามัวตื่นเต้นนาน เพราะคลื่นแห่งการเปลี่ยนแปลง ไม่ได้หยุดแค่ออฟฟิศเก่าของคุณหรอกนะ มันไปทุกอุตสาหกรรมนั่นแหละ
ควรจัดการบริหารการเงินตัวเองให้ดี ตั้งสติและมองให้ไกลด้วยว่า What Next? กับชีวิตของคุณ
ในอีก 5 ปี 10 ปี ชีวิตคุณจะเป็นเช่นไร จะใช้เครื่องมืออะไรในการดูแลชีวิตไปในระยะยาว? ควรวางแผนให้ตัวเองเติบโต ไม่ใช่คิดแค่ยอดวันนี้ เดือนนี้ เดือนหน้าเท่านั้น

คิดและวางแผนให้ไกล และขอให้มีความสุขทุกคนค่ะ

หัวข้อที่เกี่ยวข้อง

ดูหัวข้ออื่นเพิ่มเติม