ปรับตัวหรือพัง: เมื่อเอเจ้นท์ไทยกำลังจะหายไปจากแผนที่
ไม่มีแรงหนุนจากต่างชาติ
ไม่มีนโยบายกระตุ้นจากรัฐบาล มาช่วย “อุ้ม” ตลาด เหมือนหลายปีที่ผ่านมา
เมื่อก่อนเคยมีคนจีนมาเหมาห้องยกโหลจองคอนโดยก Floorกวาดบ้านเดี่ยวริมแม่น้ำแบบไม่ต้องต่อราคา พอไม่มีพวกเขา ตลาดก็ต้องหันกลับมามอง “กำลังซื้อที่แท้จริงในประเทศ” ซึ่งก็อย่างที่เห็น
ค่าแรงเท่าเดิม หนี้สินสูงขึ้น ราคาของกินของใช้วิ่งแข่งกับอุณหภูมิประเทศไทย คนจะเอาเงินที่ไหนไปดาวน์บ้าน?พอมีเงินดาวน์บ้าน แบงค์ก็ไม่อนุมัติสินเชื่ออีก
ทั้งๆที่ตอนนี้ คนไทยยังต้องก้มหน้าผ่อนมือถือ ผ่อนมอเตอร์ไซค์ บางคนผ่อนค่าเทอมลูกยังไม่จบจะกินบุฟเฟต์ยังต้องเข้าระบบผ่อน
คำถามคือ
ตอนนี้หลายบริษัทพัฒนาอสังหาฯ เริ่มปรับแผน ลดขนาดโครงการ เน้น real demand
จริง ๆ บางเจ้าหันมาจับกลุ่มบ้านระดับกลาง ราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท เพราะยังพอมีคนเอื้อมถึง แถมยังได้สิทธิประโยชน์จากแบงก์บ้าง
“ของมันขายไม่ออก”
บทเรียนจากประวัติศาสตร์การเมืองคือการยึดติดกับอำนาจ สุดท้ายอาจไม่เหลืออะไรเลย
เช่นเดียวกับวงการอสังหาฯ ที่ยึดติดกับกำไรเดิม ๆ ราคาที่เคยขายได้ดี หรือ demand ที่เคยมีมหาศาล ถ้าไม่ปรับ ไม่ลด ego วันหนึ่งอาจไม่เหลือแม้แต่กำไรให้เห็น
ในวันที่ไม่มีต่างชาติมาช่วย ไม่มีรัฐบาลมาประเคนมาตรการกระตุ้นให้ ทุก developer ต้องเรียนรู้ที่จะเสียอวัยวะเพื่อรักษาชีวิตปรับแผน ลดต้นทุน ขายจริงใจ ไม่ใช่เอาแต่ hype ปลอมๆ
ถ้าทำได้ ก็ยังพอเดินต่อได้ในยุคกระแสไม่เป็นใจ แต่ถ้ายังหลงกับความสำเร็จเก่า เร่งสร้างโครงการแพง ๆ รอคนที่ไม่มีอยู่จริง
ในขณะที่เอเจ้นท์ไทย… ยังโพสต์ในเฟซบุ๊ก แข่งกันลดคอม กดราคากันเองจนเหลือแต่พอใช้จ่ายเดือนชนเดือน หวังเอาเศษคอมเล็ก ๆ น้อย ๆ มาประคองชีวิต บางคนถึงขั้น “ขายลิสติ้ง“ จากเอเจ้นท์ด้วยกันเองเพราะเก็บมาเยอะแต่ก็ปล่อยเองไม่ได้สักห้อง
ไม่เก็บข้อมูล
ไม่เรียนรู้การใช้เทคโนโลยี
ไม่สร้างแบรนด์ตัวเอง
วันหนึ่งจะตื่นมาแล้วพบว่า…
ไม่มีที่ยืนแบบงงๆ
เพราะในขณะที่คุณยังพิมพ์ข้อความบนมือถือทีละประโยค AI ของต่างชาติสามารถวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้าหลายพันคน จับคู่ผู้ซื้อกับผู้ขายได้ทันที จบดีลในเวลาไม่กี่วินาที สุดท้ายก็จะเหลือแต่สนามดินทรายแห้งๆ ที่มีแต่ซากกระดูกเนื้อที่โดนแทะจนหมด เหลือแต่เอเจ้นท์ไทยแย่งกันหากิน
ไม่ใช่แค่การพัฒนาโครงการ
แต่หมายถึงการปรับตัวของทุกคนในวงการ ตอนนี้ต่างชาติไม่ได้มาแบบเดิม ที่ซื้อคอนโดเป็นชั้น ๆ แต่เขามา “ดูดข้อมูล” “ดูดดีล” และ “ดูดตลาด” ทั้งตลาด