Passive Income ฝันหวาน...หรือกับดักทางการเงิน?
เกือบสิบปีที่ผ่านมาผมเจอคนจำนวนมากทุกคนพูดเรื่องเดียวกันอยากมีรายได้แบบไม่ต้องลงแรง
อยาก “อยู่เฉยๆ แล้วมีเงินเข้า”
อยาก “ปล่อยเช่าแล้วเดินทางรอบโลก”
และการลงทุนอสังหา คือ 1 ในโมเดลการลงทุนแบบนั้น
ผมไม่ได้มีปัญหากับความฝันแบบนั้น แต่ผมมีปัญหากับการที่คนเข้าใจว่า Passive Income คือเรื่องง่าย เหมือนโค้ชอสังหาเค้าพูดกล่อมคุณแบบนั้น
ไม่มีอะไรผิด
ผมเคยเห็นหลายคนซื้อคอนโดปล่อยเช่า โดยไม่เคยเช็กตลาดเช่าจริง ไม่รู้ว่าแถวนี้คนเช่าอยู่กลุ่มไหน ไม่รู้ว่าเดือนหนึ่งต้องสำรองค่าอะไรบ้างเห็นแค่โพสต์ประกาศขาย เชื่อเซลล์หน้าตาดี แล้วตัดสินใจวางเงิน
ระหว่างนั้นมีเงินโบนัส เงินก้อนก็โปะไปเรื่อยๆผ่านไป 10 ปี ก็จะได้คอนโดกลางเมืองเป็นของตัวเอง
ใน 10 ปีนั้น ชีวิตคุณห้ามมีปัญหาอะไรเลย
ผมไม่เคยเห็นคนที่สำเร็จจากลงทุนอสังหา โดยไม่คิดถึงแบบแผนหรือการจัดการที่ดี
เคยไปสถานีตำรวจ เพื่อเคลียร์ยอดเงินกับผู้เช่าที่ผิดนัดชำระ
เคยลงพื้นที่ตรวจห้อง ลงไปยาแนวพื้นห้องน้ำด้วยตัวเอง
หรือเคยโดน notice จากทนายเพราะลืมส่งงวดแบงก์
ไม่มี AI มาทำความสะอาดห้อง
ไม่มีระบบป้องกันพฤติกรรมผู้เช่า
ไม่มีซอฟต์แวร์ตรวจสภาพห้องอัตโนมัติ
คุณอยากหลุดพ้นจากการทำงานประจำแต่กลับได้งานใหม่ชื่อว่า Owner/Landlord ที่เหนื่อยกว่าเดิม
✅แผนปล่อยเช่ามีกี่ทาง?
✅ถ้าผู้เช่าหายไป 6 เดือน คุณจะรอดหรือเปล่า?
✅คุณมีข้อมูลมากแค่ไหนก่อนจะตัดสินใจซื้อห้อง?
✅คุณรู้หรือยังว่าห้องบางตำแหน่ง ขายต่อยากกว่าตำแหน่งทั่วไป?
✅คุณรู้หรือยัง ว่า Layout Plan แบบไหนที่ตอบโจทย์ลูกค้า
อย่าตอบผม ตอบตัวเองพอ
ผมไม่ได้เขียนบทความนี้เพื่อบอกว่าคุณผิดแต่ผมเขียนเพื่อให้คุณคิดคิดก่อนที่ทุกอย่างจะเลยจุดกลับตัว
การมีรายได้ที่ไม่ต้องเหนื่อย...ไม่ใช่เรื่องง่าย
การไม่เหนื่อย...ไม่ใช่สิ่งที่คุณได้มาโดยไม่แลกอะไรเลย
นี่ไม่ใช่คำเตือนนี่คือ “แผล”มันคือร่องรอยอันเจ็บปวดของคนที่เคยเดินมาก่อน เจอมาแล้วทั้งนั้น คุณจะเชื่อ หรือจะลองเอง ก็เรื่องของคุณ
ผมแค่ทำหน้าที่บอกไว้ตรงนี้ เผื่อวันหนึ่งคุณต้องย้อนกลับมาอ่านแล้วรู้ว่า มีคนเคยพูดไว้แล้วแต่เราไม่ฟังเอง
Passive Income ไม่มีวันเกิดขึ้น ถ้าคุณยังไม่กล้าควบคุม Active Life ของตัวเองให้ได้ก่อน
ตอนที่มันไม่ทำกำไร
ตอนที่ทุกอย่างนิ่ง
และตอนที่ทุกอย่างโคตรวุ่นวาย เหมือนเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่ผ่านมา
รู้ว่าความเสี่ยงคืออะไร และเตรียมแผนรับมือไว้แล้ว ไม่ใช่ค่อยคิดตอนมันเริ่มปะทุปัญหา รู้ว่าผู้เช่ามีปัญหาอะไร และคุณเข้าถึงพวกเขาได้อย่างเหมาะสมรู้ว่าสภาพของทรัพย์สินตอนนี้อยู่ในระดับไหน ไม่ใช่เพิ่งรู้ตอนคืนห้องรู้ว่าตลาดเช่ากำลังขึ้น หรือลง ไม่ใช่หวังแค่ว่า “เดี๋ยวมันก็ดีขึ้นเอง”
✅คุณเช็กโลเคชันหรือยัง?
ไม่ใช่แค่ “อยู่ใกล้รถไฟฟ้า” แต่เป็นรถไฟฟ้าสายไหน เดินเท้าเยอะไหม ผู้เช่าของคุณคือใคร? กลุ่มไหน? คนวัยทำงาน หรือสายเที่ยว หรือครอบครัว?
✅คุณเปรียบเทียบราคาหรือยัง?
ราคาคอนโดที่ซื้อกับราคาปล่อยเช่าจริงของห้องอื่นๆ ในตลาด กำไรทันทีหรือเจ๊งแน่นอน
✅คุณเคยดูต้นทุนแฝงไหม?
ค่าส่วนกลาง ค่ารีโนเวท ค่าธรรมเนียม ค่านิติบุคคลและมันต่อเนื่องไปถึงวันที่คุณถือครอง
✅มีระบบบริหารผู้เช่าหรือยัง?
มีการเก็บเอกสาร การตามค่าเช่า การเตือน การจัดการข้อร้องเรียน
✅คุณเคยดูต้นทุนแฝงไหม?
ค่าส่วนกลาง ค่ารีโนเวท ค่าธรรมเนียม ค่านิติบุคคล และมันต่อเนื่องไปถึงวันที่คุณถือครอง
✅มีระบบบริหารผู้เช่าหรือยัง?
มีการเก็บเอกสาร การตามค่าเช่า การเตือน การจัดการข้อร้องเรียน
✅มีตารางบำรุงรักษาหรือไม่?
เพราะทรัพย์สินมันเสื่อมตามเวลา ไม่ซ่อมวันนี้ จะซ่อมหนักขึ้นอีก 3 เดือนข้างหน้า
✅มีเงินสำรองเผื่อฉุกเฉินหรือยัง?
ถ้าท่อแตก ต้องทุบพื้น แล้วคุณไม่มีเงินซ่อม ความเสียหายไม่ได้รอคุณเก็บเงินทันหรอก
จะไม่มีวันมาถ้าคุณยังไม่ลงแรงควบคุมมันให้ได้ก่อน
คนที่คิดว่า “ซื้อเสร็จแล้วเดี๋ยวทุกอย่างดีเอง” คือคนที่กำลังรอวันโดนบิลค่าใช้จ่ายฟาดหน้า
คนที่คิดว่า “จ้างเอเจนท์มาจัดการ แล้วไม่ต้องทำอะไรเลย” คือคนที่กำลังเมินเฉยจากความรับผิดชอบของตัวเอง
แต่คนที่ “ควบคุมได้ทุกอย่างที่ควบคุมได้” คือคนที่สร้างระบบจริง และรอดจากทุกพายุได้จริง
Passive Income ไม่เคยมีไว้ให้คนที่นั่งรอ มันมีไว้สำหรับคนที่ “ควบคุมชีวิตตัวเอง” ได้ในระดับที่สูงพอ จนเขาสามารถวางมือ…โดยไม่ทิ้งปัญหาไว้ข้างหลัง
ถ้าทรัพย์สินที่ยังไม่พร้อมจะเลี้ยงคุณ มันก็กลายเป็นภาระที่คุณต้องเลี้ยงแทน