แชร์ประสบการณ์

แชร์ประสบการณ์

นิทานอสังหา EP.6 : จากโอกาสทองสู่บทเรียนชีวิต: เมื่อความจริงใจแพ้เกมธุรกิจ

matching
วันที่สร้างประกาศ เวลาสร้าง 30 กรกฎาคม 2568 09:35
นิทานอสังหา EP.6 : เสือใส่สูท เมื่อธุรกิจไม่ได้ขับเคลื่อนด้วยความจริงใจ
“ภพ” ชายหนุ่มที่ทำนายหน้าอสังหาฯมานาน เขาไม่ได้เป็นมือใหม่เขาคือคนที่กำลังไปได้ดี ในวงการนายหน้า

ภพเริ่มต้นจากการขายบ้านจัดสรร บ้านเดี่ยวมือสอง ทาวน์โฮมราคาเบาๆบ้านที่เจ้าของเป็นคุณลุงคุณป้า คนธรรมดาแบบเราๆ ดีลที่ไม่หวือหวา ไม่มีเลข 9 หลัก ไม่มีคำว่า “Landbank”แต่ทุกหลังคือ ดีลที่เต็มไปด้วย “ความจริงใจ”

เขาใช้เวลาเป็นปี ค่อยๆ ปิดดีลแบบนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าลูกค้ารู้จักเขา ลูกค้าแนะนำ เพื่อนเจ้าของบ้านวางใจ บอกต่อไปยังญาติพี่น้อง ภพสร้างชื่อแบบเงียบๆ แต่มั่นคง

จนกระทั่งวันหนึ่งโอกาสที่เขาไม่คาดฝันก็ปรากฏขึ้นในรูปแบบของเสียงโทรศัพท์เบอร์ที่ไม่คุ้น แต่ปลายสายพูดมาชัดถ้อยชัดคำว่า
“ผมมีที่ดินริมแม่น้ำ 120 ไร่ อยากให้คุณภพช่วยดูให้หน่อย”
สิ่งที่ทำให้ภพรู้ว่านี่คือ “โอกาสทอง” ไม่ใช่แค่ขนาดของที่ดิน ไม่ใช่แค่ที่ตั้งที่ติดแม่น้ำเจ้าพระยาในเขตพัฒนาใหม่แต่เพราะเจ้าของที่ คืออดีตนักการเมืองใหญ่ระดับประเทศ ชื่อเสียงระดับที่ไม่ต้อง Search กูก็รู้ว่า “ของจริง”

ภพได้เข้าพบกับเจ้าของที่ดินแปลงนี้แบบตัวเป็นๆในระหว่างพูดคุย ใจภพเต้นแรงแต่ยังรักษาความนิ่งในน้ำเสียง
“ยินดีครับพี่ ผมจัดให้เต็มที่เลย”
เจ้าของที่ดินยิ้มและพูดว่า
“แปลงนี้ ผมให้คุณภพดูแลคนเดียวเลยนะ พอดีมีเพื่อนแนะนำคุณมา”
ดีลนี้ ภพทำการบ้านอย่างจริงจังไม่รีบพาผู้ซื้อเข้า เขาเริ่มจากการจัดการข้อมูลอย่างมืออาชีพสำรวจแนวถนน สาธารณูปโภค น้ำท่วม-ไม่ท่วม ประวัติเจ้าของ การครอบครอง โฉนด การแบ่งแปลงจนได้เอกสารครบชุด ที่พอจะยื่นเข้าห้องบอร์ดได้โดยไม่อายใคร

เขาทำ Presentation ภาษาไทยและอังกฤษ สร้างวิดีโอโดรนบินเหนือแปลงที่ใช้เสียงบรรยายจากนักพากย์มืออาชีพใส่เพลงบรรเลงเบาๆ พร้อมตัวเลขด้านการลงทุน ทั้งหมดนี้ ด้วยเงินในกระเป๋าของเขาเอง
เพราะเจ้าของบอกว่า

“ถ้าปิดได้ ให้ 3% ทันที ไม่ต่อ”3% ของราคาขายกว่า 1,500 ล้านบาท...

เขาคิดในใจ “ชีวิตเปลี่ยนแน่”
ภพใช้เวลา 7 เดือนเต็ม ในการเฟ้นหาผู้ซื้อเขาคัดเฉพาะรายที่มีศักยภาพเขาไม่กลัวที่จะบอกปัดนักปั่นราคา นักลงทุนหน้าใหม่ และนายหน้าสายเทาเขาอยากให้ดีลนี้ “บริสุทธิ์” เพราะมันคืองานใหญ่ที่สุดในชีวิตของเขา

และในที่สุด...เขาก็หาคนที่ใช่เจอ เป็น Developer ชื่อดังจากต่างประเทศ ที่มีบริษัทร่วมทุนกับไทยเข้าร่วมชมทรัพย์ และให้ความสนใจอย่างจริงจัง

ภพอยู่ในทุกขั้นตอนตั้งแต่วันดูหน้างาน จนถึงวันที่มีการเจรจาเขาช่วยแปล ช่วยอธิบาย ช่วยปรับข้อเสนอ เขานั่งอยู่ในห้องประชุมร่วมกับนักกฎหมาย นักการเงิน
ทำหน้าที่เกินกว่าคำว่า "นายหน้า" ไปมาก บางครั้งถึงขั้นรู้สึกเหมือนเป็น “ที่ปรึกษาเฉพาะทาง” ไปแล้ว

แล้ววันหนึ่ง ทุกอย่างก็ลงตัวราคาตกลงกันได้ 1,420 ล้านบาทเจ้าของพอใจ ผู้ซื้อก็พร้อมจ่ายนัดวันโอนที่กรมที่ดินเรียบร้อยเตรียมการโอนผ่านแบงก์ พร้อมเอกสารการหักภาษีและค่าธรรมเนียมครบ

ภพดีใจมาก เขายืนอยู่ในวันนั้น เหมือนเป็นคนในครอบครัว เจ้าของหันมาหาเขาแล้วพูดว่า
“ขอบใจนะภพ ถ้าไม่มีน้อง ก็คงไม่จบง่ายแบบนี้”
เขากลั้นน้ำตาแห่งความปลื้มปิติไว้ในใจ

แต่แล้ว
หนึ่งสัปดาห์ผ่านไป — ไม่มีค่าคอม
สองสัปดาห์ผ่านไป — ยังเงียบ

ภพเริ่มทวง...อย่างสุภาพ ได้รับคำตอบว่า “เดี๋ยวพี่เคลียร์บัญชีแป๊บนะ มันเยอะ”

หนึ่งเดือนผ่านไปภพเริ่มรู้สึกว่า บางอย่างผิดปกติเขาติดต่อเลขาฯ ก็ได้รับคำตอบว่า
“ตอนนี้เจ้านายติดประชุมหลายเรื่อง ยังไม่ได้เซ็นอนุมัติ”
ภพเริ่มโทรหาเจ้าของโดยตรง — ปลายสายไม่รับจนต้องแอบถามผู้ซื้อ ว่า “ทางนู้นได้เคลียร์กันหรือยังครับ” ผู้ซื้อกลับตอบมาสั้นๆ ว่า
“เราไม่ทราบเรื่องคุณภพเลยครับ เราดีลกับตัวแทนของเจ้าของโดยตรงทั้งหมด”
หัวใจภพ...ตกไปอยู่ที่พื้นเขาเพิ่งเข้าใจว่าในวันที่โอนทรัพย์ เขาไม่ได้อยู่ใน “สัญญาใดๆ” ไม่มีชื่อเขาใน MOU ไม่มีค่าคอมมิชชั่นที่เขียนชัดเจน มีเพียง “คำพูด” คำพูดที่อบอุ่น ความตั้งใจและความจริงใจของภพ ไม่มีค่าในสนามของเสือสิงห์กระทิงแรด

มือเท้าและหัวของภพชาไปหมด หูมีแต่เสียงวิ้งที่ทำให้ไม่ได้ยินเสียงรอบข้างความรู้สึกที่มันเจ็บไปถึงข้างใน จุกอกไปหมดแต่มันร้องไม่ออก

เขากลับมานั่งเงียบในคอนโดเล็กๆ ของตัวเอง นั่งดูใบเสนอราคา บัญชีรายจ่ายการทำสื่อ ที่เขาออกเองทุกบาทดูเวลาที่ใช้ไปกับการเดินทาง ประชุม ซัพพอร์ตดูข้อความแชตที่เคยคุยกับเจ้าของอย่างไว้ใจแล้วสุดท้าย…เขานั่งก้มหน้า พร้อมกับความจริงว่า
“สุดท้ายแล้วเขาไม่ได้ได้เงินเลย — แม้แต่บาทเดียว”
เขาอยากจะร้องไห้ไม่ใช่แค่เพราะเสียเงินแต่เพราะรู้สึกว่าเขา “ถูกหักหลัง” โดยคนที่เขาเคารพ

และที่เจ็บที่สุดคือรู้ว่า...เขาทำทุกอย่างดีที่สุดแล้ว แต่กลับได้รับสิ่งตอบแทน เป็นบทเรียนที่ยิ่งใหญ่ในชีวิต

ภพได้ติดต่อปรึกษาทนายแต่ทนายได้ให้คำปรึกษาว่า สู้ได้นะภพแต่ใช้เวลาและเสียค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงแถมทางนั้นไม่ใช่คนธรรมดาเกรงว่าภพจะเสียเวลาซึ่งภพก็รู้สึกแบบนั้นเช่นกัน

เขากลับไปนั่งมองบ้านหลังเล็กที่เขาเพิ่งขายได้เมื่อเดือนก่อนบ้านที่เจ้าของโอนเสร็จ แล้วหยิบซองใส่มือเขา บอกว่า
“น้องช่วยพี่เยอะมาก นี่เป็นน้ำใจจากใจจริง”
เขายิ้ม — และน้ำตาก็ไหลเงียบๆ

ภพยังไม่เลิกเป็นนายหน้า แต่เขาไม่เชื่อคำพูดใครอีกเขาเรียนรู้ว่า ถ้าจะเดินในสนามนี้ เอกสารสัญญา ต้องมีข้อตกลง ต้องชัดเจนและทุกสิ่งที่ทำไปต้อง “คุ้มในตัวเอง” โดยไม่ต้องรอให้ใครให้ค่า

วันนี้เขากลับไปขายบ้านราคา 3 ล้าน 5 ล้านเหมือนเดิม แต่เขาทำมันด้วยควาเข้าใจใหม่ ว่าความใหญ่ของดีลไม่ได้แปลว่าเราทำไม่ได้คนที่มีชื่อเสียงหรือคนมีฐาน ทางสังคม ไม่ได้การันตีความซื่อสัตย์ของคน
และความสำเร็จในอาชีพนี้...ไม่ได้อยู่ที่ดีลที่ใหญ่ แต่อยู่ที่ดีลที่ “จบอย่างยุติธรรมและมีจริยธรรม”
นายหน้าที่เค้าว่าจับเสือมือเปล่า จริงๆแล้วไม่ใช่เสือ 4 ขาไม่ใช่สัตว์ที่ดุร้ายที่อาศัยอยู่ในป่าแต่มันคือสัตว์ที่เดิน 2 ขาสวมสูท...และพูดจานุ่มนวล.ที่อยู่ในเมืองต่างหาก

หัวข้อที่เกี่ยวข้อง

ดูหัวข้ออื่นเพิ่มเติม