นิทานอสังหา EP.7 (1/4) : บทเรียนราคาแพงของ 'พี่นนท์'…เมื่อเงิน ความฝัน และครอบครัว ตัดกันตรงทางแย่

นิทานอสังหา EP.7 (1/4) ชื่อเสียง...ที่ใช้รักษาแม่ไม่ได้

เรื่องนี้เริ่มจากเสียงโทรศัพท์ดังตอนตี 1 ในสายคือเสียงที่คุ้นเคย...น้องสาว น้องสาวโทรมา...ร้องไห้ บอกว่าแม่เกิดอาการช็อค เลือดออกไม่หยุด และน่าจะต้องไปโรงพยาบาลอีกครั้ง

นนท์นั่งอยู่คนเดียวในห้องเช่าแสงจากจอโทรศัพท์วาบสะท้อนใบหน้าที่ไม่ได้หลับมา 3 คืนนนท์ตรวจดูเงินใน Mobile ที่เหลืออยู่ 640 บาท กับใบแจ้งหนี้ค่าผ่อนรถที่เลยกำหนดมาแล้ว 7 วัน ใครจะคิดว่านายหน้าที่เพิ่งโพสต์ใน Social

"ปิดอีก 3 ดีล ขอบคุณคุณลูกค้าที่ให้ความไว้วางใจ"

จะไม่มีแม้แต่เงินพาแม่ไปหาหมอ

นนท์เริ่มต้นอาชีพนายหน้าอสังหาฯจาก 0 เหมือนใครหลายคน ขี่มอเตอร์ไซต์ ไปหาทรัพย์หิ้วโบรชัวร์ ให้ลูกค้ามาฝากทรัพย์ถ่ายรูปทรัพย์ส่งให้พี่ ๆ ในไลน์หา Co ตามโพสต์ใน Socialยอมแบ่งคอมมิชชั่นแบบไม่คิดมากเพื่อให้มีรายได้เลี้ยงเข้ามาเลี้ยงชีพ

วันนั้นยังเชื่อในคำว่า “น้ำพึ่งเรือ เสือพึ่งป่า” ช่วยกันขาย แบ่งกันกินขี่มอไซต์ไปรับลูกค้าท่ามกลางแดดร้อนจนหลังคอมีรอยไหม้จางๆจากอากาศร้อน นนท์ไม่ได้เก่ง...แต่นนท์ตั้งใจ

นนท์เริ่มมีชื่อ
จากโพสต์ธรรมดาที่ใส่คำคม
จากการช่วยรุ่นน้องตอบคอมเมนต์ในกลุ่ม
จากการแต่งประโยคให้ดู “มีลูกค้ารอซื้ออยู่จริง”

แค่โพสต์ให้ถูกที่…ก็มีคน inbox แค่ถ่ายรูปมุมดี…ก็มีคนตาม แค่พูดให้มั่นใจ…ก็มีคนเชื่อ นนท์กลายเป็นคนมีตัวตนอยู่ในหลายสังคม นนท์กลายเป็น “พี่นนท์” มีน้องเข้ามาขอ Co ทุกวันเริ่มมีการรับคนที่สนใจเข้ามาร่วมทีมมีทีม มีเพจ มีไลน์กลุ่มบางวัน Zoom กับคนที่อยากเรียนรู้กับนนท์ล้นห้อง

แต่เบื้องหลัง นนท์ยังค้างค่าผ่อนรถยังติดพนันที่คิดว่า “งวดนี้จะได้คืน”บัตรเครดิตอีก 3 ใบยาพิเศษและการรักษาที่ต้องให้แม่ และคำพูดที่นนท์เคยพูดไว้ว่า

“ลูกคนนี้จะไม่ให้แม่ต้องลำบากอีก”

ยังคงก้องอยู่ในหัวของนนท์มาตลอด

นนท์เหลือเวลาไม่มาก เงินก้อนที่ได้มาจากการปิดดิลส่วนใหญ่เกิดจากการ Co-Agent ซึ่งตอนนี้ถือว่ายังไม่พอนนท์เริ่มคิด...ถ้าเราเปลี่ยนการทำงานปิดดิลคนเดียวโดยไม่ต้องแบ่งค่าคอมล่ะ?

4วันถัดมา นนท์มีลูกค้าติดต่อมาเพื่อหาซื้อบ้านหรูย่านราชพฤกษ์ มีงบถึง 40 ล้านบาท

นนท์ไล่หาทรัพย์จากกลุ่มอสังหาใน Socialเลื่อนดูโพสต์ในกลุ่มนายหน้ามีน้องคนหนึ่งโพสต์บ้านที่น่าจะตอบโจทย์ลูกค้า แนบรูป พร้อมแปลน และสำเนาโฉนดเบลอชื่อ สมองนนท์ไม่ได้คิดอะไรเลย นอกจาก

“ถ้าได้เบอร์เจ้าของ…ดีลนี้เราได้เต็ม ๆ”

นนท์เริ่มสืบหาเจ้าของค้นหาจาก googleหามุมใน Google Maps ดูภาพดาวเทียมเพื่อเทียบกับรูปภาพที่น้องคนนั้นโพสขยายป้ายเลขบ้านในรูปแล้วใช้ connection เพื่อนที่พอจะดึงชื่อจากฐานข้อมูลมาได้และในที่สุด...ก็ได้เบอร์มือถือเจ้าของหลังนี้มา

นนท์โทรไป พูดจาด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลเหมือนทุกครั้ง

“สวัสดีครับ เห็นว่ากำลังประกาศขายบ้านหลังนี้อยู่ ผมมีลูกค้า สนใจซื้อบ้านคุณครับขออนุญาตส่งรายละเอียดเพิ่มเติมได้ไหมครับ?”

ปลายสายเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนตอบว่า

“ได้ค่ะ เดี๋ยวให้น้องคนนึงส่งรายละเอียดให้ คุยกันทางไลน์นะคะ”

นั่นคือครั้งแรก...ที่นนท์ “เจาะทรัพย์” โดยไม่บอกใคร ไม่เอ่ยชื่อคนที่ส่งให้นนท์ ไม่แจ้งว่าได้ข้อมูลมาจากไหน ไม่แม้แต่จะบอกลูกทีม ว่านนท์ทำยังไงถึงได้เบอร์

เมื่อนนท์ได้ข้อความทั้งหมดมานนท์ตั้งโพสประกาศให้โลกรู้ พร้อมข้อความที่เขียนว่า

“ได้รับมอบหมายโดยตรงจากเจ้าของบ้าน”

นนท์รู้ว่ามันโกหกแต่ถ้าได้เงินมา...มันช่วยให้นนท์จ่ายค่ายาให้แม่และล้างหนี้ก้อนเล็กก้อนน้อยได้ และนนท์พูดกับตัวเองว่า

“ทำแค่ครั้งนี้...แค่ครั้งเดียว...พอ”

ในที่สุดนนท์ก็ปิดดิลหลังนี้ได้นนท์ทำเอกสารสัญญาจะซื้อจะขายในวันทำสัญญานนท์ควบคุมเกมส์เองทั้งหมดทั้งฝั่งผู้ซื้อและผู้ขาย จนถึงวันที่โอนกรมที่ดิน

นนท์สังเกตเห็นคนๆนึงเป็นผู้หญิงตัวเล็กๆที่ไม่ได้พูดอะไร แต่อยู่ในเหตุการณ์และกระบวนการตลอด ซึ่งนนท์เองก็ไม่ได้สังเกตอะไรมากเพราะตอนนั้นคือมุ่งหวังเพียงอย่างเดียว

“ถ้าได้ค่าคอมเต็ม เราจะมีเงินรักษาแม่ และใช้หนี้ได้บางส่วน”

เมื่อโอนกรรมสิทธิ์เสร็จผู้ซื้อได้แยกย้ายกลับไปแล้ว นนท์ได้ถามถึงค่าคอมมิสชั่นที่ควรได้

เจ้าของบ้านพูดขึ้นมาว่า

“เรื่องค่าคอม นนท์คุยกับน้องคนนี้เค้าเอานะ เพราะทุกอย่างพี่ให้น้องคนนี้ดูแล”

เจ้าของบ้านผายมือไปที่น้องผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่ไม่เคยปริปากพูดอะไรเลย

นนท์เพิ่งรู้ทีหลังว่า น้องผู้หญิงคนนี้ เป็นนายหน้าที่ได้รับมอบหมาย ให้เป็น”ตัวแทนของเจ้าของหลังนี้แต่เพียงผู้เดียว”
มีสัญญา Exclusive อย่างชัดเจน

“หนูรู้จักพี่นะ แต่ไม่คิดว่าพี่จะทำงานแบบนี้”

นี่คือคำพูดแรกที่น้องคนนี้เอ่ยปาก

ตอนนั้นนนท์ตัวชาไปหมดเพราะตัวเองรู้สิ่งที่ตัวเองทำมาตลอดและนนท์ก็ลืมสังเกตว่าบ้านหลังนี้มีแต่น้องคนนี้ที่เป็นคนโพส ไม่ใช่บ้านที่หลายคนมี เหมือนทรัพย์ทั่วไป

“หนูให้ค่าคอมพี่ในฐานะ Co-Agent นะ ถ้าพี่จะเอาเต็ม หนูคงให้ไม่ได้”

นนท์เองไม่มีท่าทีที่จะปฏิเสธเงื่อนไขของน้อง ได้แต่ก้มหน้าและตอบตกลง ไม่กล้าแม้แต่จะสบตาผู้หญิงตัวเล็กๆ

“กูจะไม่ทำแบบนี้อีกแล้ว”

นนท์พูดกับตัวเองแบบนั้น

แต่สิ่งที่นนท์ให้คำสัญญากับตัวเองนั้นเป็นเพียงคำพูดลอยๆที่แค่รู้สึกให้ตัวเองพ้นผิดนนท์ยังทำการเจาะทรัพย์อยู่เรื่อยๆจาก 1 เคส กลายเป็นทุกเคสทรัพย์ไหนนนท์เจาะได้นนท์เจาะหมด

ด้วยเหตุผลเข้าข้างตัวเองว่า

“กูต้องหาเงินมารักษาแม่”

นนท์ยังคงหลงระเริงกับพฤติกรรมของตัวเอง แต่นนท์ยังไม่รู้ตัวเองว่าต่อจากนี้จะเป็นอย่างไร

ติดตามต่อ EP.7 (2/4) พรุ่งนี้ 2-3 ทุ่ม เวลาเดิม 🙂