แชร์ประสบการณ์

แชร์ประสบการณ์

“ไม่มีบ้านหลังไหนใหญ่เกินความจริงใจ” – นิทานอสังหา EP.7 ปิดตำนานนายหน้าเจาะทรัพย์

matching
วันที่สร้างประกาศ เวลาสร้าง 4 สิงหาคม 2568 09:15
นิทานอสังหา EP.7 (4/4) “ชื่อของฉัน…ไม่อนุญาตให้ใครมาแอบอ้าง”
“ฉันไม่รู้จักเขา แต่บ้านของฉัน…กลับไปอยู่ในทุกโพสต์ของเขา โดยที่เค้าไม่เคยได้เอ่ยปากขอ”
“แอล” Designer ที่มีฝีมือจัดจ้านในวงการ รักความเป็นส่วนตัว และมีรสนิยมที่เป็นเอกลักษณ์ บ้านหลังมุมในรามอินทราคือบ้านที่เธอลงรายละเอียดทุกอย่างด้วยตัวเอง แม้กระทั่งโคมไฟในครัว

บ้านหลังนี้เธออยู่กับพ่อมาตั้งแต่สมัยเด็กๆเมื่อพ่อเธอเสียไปเธอจึงวางแผนขายบ้านหลังนี้และตัดสินใจไปใช้ชีวิตที่สวิตเซอร์แลนด์ถาวร เมื่อกลับมาถึงกรุงเทพฯ...ก่อนจะถึงบ้านเธอ “เห็นบ้านตัวเอง” บนมือถือก่อนแล้ว

โพสต์ TikTok คลิปรีวิว แคปชั่นขายทรัพย์ภาพนิ่งที่คุ้นตาและเสียงผู้ชายที่เธอไม่รู้จักชื่อ…อ้างตัวว่าเป็นผู้ได้รับมอบหมายในการดูแลบ้านของเธอ

เธอส่งข้อความไปหา เบนซ์ คนที่เธอไว้ใจผู้ชายที่ดูไม่หือไม่อือกับอะไร มีแต่รอยยิ้มและคำพูดที่ดูบ้านๆ แต่เชื่อมโยงระหว่างคำว่า “มืออาชีพ” กับ “จริงใจ” ได้ดีที่สุดในสายตาเธอ
“เบนซ์ นี่บ้านพี่ถูกโพสต์ลง TikTok หรอ?”
“คนชื่อ ‘นนท์’ คือใคร?”
เบนซ์อ่านข้อความนั้น…นานมาก แต่ตอบกลับเพียงสั้น ๆ

“คนที่ผมเคยไว้ใจครับแล้วเขาก็หักหลังผม และหักหลังพี่...โดยที่พี่ไม่เคยรู้จักเขาเลย”

เธอพิมพ์กลับว่า
“พรุ่งนี้สะดวกมาเจอกันที่บ้านพี่ไหม? พี่อยากฟังจากปากเบนซ์โดยตรง”
โต๊ะไม้โอ๊คทรงกลมในบ้านหลังมุม ที่ครั้งหนึ่งใช้วางแจกัน วันนี้กลายเป็นโต๊ะสารภาพความจริงเบนซ์พูดทุกอย่างด้วยน้ำเสียงเรียบแต่สีหน้าเหมือนคนที่เก็บเรื่องนี้ไว้ในใจความอัดอั้นที่ไม่เคยถูกระบาย มันปะทุจนหัวใจแทบรับไม่ไหว

เบนซ์เล่าเรื่องทุกอย่าง ทั้งตอนที่ส่งภาพให้ ทั้งตอนที่เห็นนนท์โพสต์ ทั้งตอนที่รับโทรศัพท์จากคนที่เคยไว้ใจ เขาเล่าทั้งหมดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
“พี่ครับ…ผมเคยให้ภาพเขาไปแค่บางส่วน เคยเล่าให้เขาฟังเรื่องบ้านหลังนี้
แต่ผมไม่เคยให้เขาไปพูดแทนพี่ และไม่เคยคิดเลยว่าเขาจะไปตั้งราคาขายเอง
โดยไม่ผ่านพี่แม้แต่คำเดียว…”
ตอนพูดถึงประโยคสุดท้าย เบนซ์นิ่งไปนาน แล้วก็เงยหน้ามองแอล น้ำตาคลอเบ้า…ก่อนจะพูดด้วยเสียงสั่นว่า
“ผมไม่รู้จะขอโทษยังไง พี่ไว้ใจผม แต่ผม…ดันไว้ใจคนผิด”
เธอฟังเงียบ ๆไม่มีเสียงตำหนิ มีแต่ความเข้าใจที่ไหลผ่านแววตา
“มันไม่ใช่ความผิดของเธอหรอกเบนซ์ แต่เราคงต้องทำให้ความจริง มันพูดได้ด้วยตัวเองแล้วล่ะ”
หลังมื้อนั้น เธอส่งเบนซ์ขึ้นรถ เธอกลับขึ้นห้อง นั่งลงหน้าคอมและเขียนโพสต์เพียงไม่กี่ย่อหน้าแบบไม่ระบุชื่ออ้างอิงใคร
“บ้านหลังนี้เป็นของฉัน ฉันไม่เคยให้ใครดูแล ไม่เคยให้ใครตั้งราคาตามใจ ไม่เคยให้ใครใช้ชื่อฉันไปอ้าง ถ้ามีใครบอกว่าบ้านนี้เขาดูแล…นอกจากเบนซ์ ขอให้รู้ไว้ว่า มันไม่ใช่เรื่องจริง”
และแอลก็ tag คนที่ควรได้รับเกียรติ คือ @Benz Realtor
โพสต์นั้นไม่พุ่งแรง เพราะแอลไม่ใช่คนเล่น Social แต่มันก็สะเทือนถึงดวงดาว ในเวลาไม่ถึง 12 ชั่วโมง

ชื่อของนนท์เริ่มโผล่ในคอมเมนต์ กลุ่มนายหน้าเริ่มพูดถึง อดีตลูกทีมเริ่มขุดโพสต์เก่าและคนในวงการเริ่มพูดปากต่อปากว่า
“มันไม่ใช่ครั้งแรกหรอกที่มันทำแบบนี้”
“เอาอีกแล้ว!!! เจาะเสร็จ ทำตัวเป็นเจ้าของ”
“ให้ข้าวหมายังรู้สึกดีกว่าร่วมงานกับคนชื่อนนท์อีก”
“เอเจ้นท์.jpg โดนแหกละครับท่านผู้ชม”
หลังจากโพสต์ของแอลกระจายไปในกลุ่มนายหน้า ชื่อของนนท์เริ่มหลุดจากคำว่า “ซุปตาร์” แล้วเปลี่ยนสถานะเป็น
“นายหน้าเจาะทรัพย์จนคนทั้งวงการเอือมระอา”
ในวันเดียวกัน กลุ่มไลน์นายหน้า 4 กลุ่มใหญ่ แชร์โพสต์ของแอลแบบไม่ได้นัดหมาย ชื่อของเบนซ์ถูก tag ในคอมเมนต์ด้วยความเห็นใจ แต่ชื่อของ “นนท์” ถูกพูดถึงในคอมเมนต์…ด้วยความจำได้

เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขา “ทำแบบนี้” มันแค่เป็นครั้งแรกที่ “เจ้าของบ้าน” เลือกจะพูด อดีตลูกทีมเริ่มทยอยแชทเข้ามา บางคนส่งข้อความว่า
“ผมขอโทษพี่เบนซ์ ตอนนั้นผมก็เคยถูกพี่นนท์ให้ไปหาชื่อเจ้าของในโฉนดเหมือนกัน แล้วสุดท้ายพี่นนท์ก็เอาทรัพย์นั้นไปลงเอง”

บางคนโพสต์ว่า
“ผมเคยโดนพี่นนท์บอกว่าไม่ต้องโคกับเจ้าของ ถ้าหาทางติดต่อเองได้ก็ไม่ต้องแบ่งผมโง่ที่เชื่อเขา”

บางคนพิมพ์ตรง ๆ ว่า
“คนแบบนนท์ต้องกินข้าวผ่านธูป”
ตอนนี้ บัญชีของนนท์เงียบสนิท ไม่โพสต์-ไม่ขาย-ไม่พูด

เขาเริ่มลบโพสต์เก่าอย่างเร่งรีบ โดยเฉพาะโพสต์ที่เกี่ยวกับบ้านของแอล คลิปถูกกดลบ Caption ถูกแก้ โพสต์หายไปหลาย 10 รายการในเวลาไม่กี่ชั่วโมง แต่สิ่งที่เขาลบไม่ได้คือ “ความทรงจำของผู้คน” ที่รู้แล้วว่า...ภาพลักษณ์ของเขา มันไม่ใช่ของจริง

ตอนบ่าย เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นหน้าจอแสดงชื่อว่า “แม่”นนท์ลังเลอยู่หลายวินาทีก่อนจะกดรับ
“ลูก…แม่เห็นโพสต์ในเฟซบุ๊ก เขาว่าลูกเอาบ้านคนอื่นไปลงขาย โดยที่เค้าไม่ได้ยินยอมมันเรื่องจริงหรือเปล่าลูก?”
เขาเงียบ แม่ไม่ได้พูดซ้ำ แค่รอฟัง

เขานิ่งนาน...แล้วในที่สุดเสียงก็หลุดออกมาจากลำคอที่แห้งผาก
“อ๋อ เป็นเรื่องเข้าใจผิดกันนิดหน่อย เคลียร์กันแล้วครับ”
เขาก้มหน้าน้ำเสียงสั่นไม่ได้กลัวใครด่า แต่กลัว…“ความผิดหวังในสายตาคนที่รักเขาที่สุดในชีวิต” นนท์กดความรู้สึกตัวเองไว้ระหว่างสนทนานนท์บีบมือตัวเองแน่น และกัดเข้าที่ง่ามมือ เพื่อให้ความเจ็บปวด กลบความละอายของตัวเอง ระหว่างที่สนทนากับแม่ นนท์วางสาย เปิดมือถืออ่านข้อความในโพสต์ของแอลซ้ำอีกครั้ง
“บ้านนี้ ฉันไม่เคยให้ใครดูแล นอกจาก @Benz Realtor”
และในวินาทีนั้น นนท์รู้แล้วว่า… เขาไม่ได้แค่เสียบ้านหลังหนึ่ง ไม่ได้แค่พลาดดีลใหญ่ แต่เขา “หมดความน่าเชื่อถือ” ในวงการ หมดที่พึ่งจากอดีตลูกทีม หมดพื้นที่ในใจของคนดูคอนเทนต์ และที่หนักที่สุด “นนท์ไม่ได้เป็นอย่างที่แม่หวัง”

เขาโพสต์อีกครั้งในคืนนั้น ไม่ใช่โพสต์ขายแต่เป็นโพสต์ขอโทษ ไม่มีชื่อคน ไม่มีการแท็ก
มีแค่รูปท้องฟ้า…กับข้อความสั้น ๆ
“ผมเคยทำผิด ขอโทษทุกคนที่ผมเคยทำให้เสียใจ และขอโทษแม่…ที่ทำให้แม่ผิดหวังในลูกคนนี้”
นนท์ไม่ได้ลงรายละเอียดเกี่ยวกับการขายบ้านหลังนี้ แต่ครั้งนี้ ไม่มีใครกดไลก์มากมายเหมือนที่เคย

แชร์น้อยมากมีแต่คอมเมนต์ที่เป็น pattern ตามๆกันมาว่า “สู้ ๆ นะพี่นนท์” เพราะนี่คือจุดที่ทุกคนรู้แล้วว่า
“ถ้าพื้นฐานของความสำเร็จ มันถูกสร้างด้วยกลโกงของความไว้ใจ ต่อให้สูงแค่ไหน สุดท้ายมันก็จะพังทลายอยู่ดี”
หลังจากนนท์โพสต์ขอโทษ และความเงียบได้กลืน feed ของเขาไป นนท์พยายามสร้าง account ใหม่ขึ้นมาเพื่อให้ทุกคนลบภาพจำในอดีตแต่ทุกครั้งที่มีการโพส นนท์ไม่กล้าที่จะเอาหน้าตัวเองเข้ากล้องอีกแล้ว

มันเลยทำให้โพสที่โพสออกไปไม่ได้รับความสนใจเหมือนที่แล้วมาจากคนที่เคยเป็น Someone กลายเป็น Noone ในช่วงเวลาอันสั้น
ความน่าเชื่อถือเป็นสิ่งนึงที่สร้างยากที่สุดเค้ากลับทำลายมันด้วยมือของเค้าเอง
วันหนึ่ง 1 ในลูกค้าที่เคยพยายามติดต่อนนท์แต่ไม่เคยได้รับนัดเพราะ “ยังไม่ผ่านเกณฑ์คัดกรอง” แต่ยังคงมุ่งมั่นที่จะขอเข้าดูบ้าน และเบนซ์…คือชื่อที่พวกเขาเจอจากโพสต์ของแอลเบนซ์ไม่ได้พูดว่าตัวเองถือสิทธิ์ไม่ได้ประกาศว่าเป็นผู้ดูแลแต่เพียงผู้เดียว เขาแค่พูดว่า
“ผมขอพาทุกคนเข้าบ้านนี้...ด้วยความเคารพในเจ้าของ และขอให้ทุกคนรู้ว่าบ้านหลังนี้พิเศษจริง ๆ ไม่ใช่เพราะใครเป็นคนขาย แต่เพราะมันเป็นบ้านที่ถูกออกแบบด้วยใจ”
วันนั้น...เบนซ์พาชมบ้าน ตอบคำถามทุกข้อ ดูแลทุกอารมณ์ และไม่เคยรีบเร่งให้ใคร “ตัดสินใจตอนนี้”

ลูกค้าคนนี้ ที่เคยถูกเมินจากนนท์ สุดท้าย...กลายเป็นผู้ซื้อที่แฮปปี้ที่สุดเท่าที่เบนซ์เคยดูแลมา

ดิลจบ เบนซ์ได้ค่าคอมเต็มไม่มีการโคดิลที่เบนซ์เคยจะปล่อยจอย ปล่อยให้ลอยไปกับความผิดหวังตอนนี้คือดิลที่ทำให้เบนซ์จับเงินล้านเป็นครั้งแรก วันโอนกรรมสิทธิ์ที่กรมที่ดินแอลเดินมายืนข้างเบนซ์ ไม่มีพิธีรีตอง ไม่มีคำพูดยาว

เธอแค่ยิ้มแตะไหล่เขาเบา ๆ แล้วพูดช้า ๆ ด้วยน้ำเสียงที่อบอุ่นและชัดเจนว่า
“สำเร็จแล้วนะ...เบนซ์”
และในวินาทีนั้น เบนซ์ไม่ได้ยิ้มกว้าง แค่หลุบตาลง…และพยักหน้าเบา ๆ เพราะเขารู้นี่ไม่ใช่ความสำเร็จของการปิดดิล แต่มันคือความสำเร็จของการยืนด้วยขาของตัวเอง โดยไม่ต้องเหยียบหัวใคร...

หลังจากโอนกรรมสิทธิ์เสร็จสิ้น เบนซ์เดินออกจากกรมที่ดิน ไม่ได้ถ่ายเซลฟี่ไม่ได้โพสต์สลิปเขาเพียงแค่กลับบ้านเปิดมือถือ แล้วเห็นโพสต์ของใครคนหนึ่งขึ้นมาในไทม์ไลน์… เป็นโพสต์ของ “คุณแอล” เจ้าของบ้านหลังนั้น

เขาอ่านข้อความทีละบรรทัด
“บ้านหลังนี้ขายเรียบร้อยแล้วนะคะ ขอบคุณเอเจนท์มืออาชีพที่ดูแลบ้านของฉันด้วยหัวใจ @Benz Realtor คือนายหน้าคนเดียวที่ฉันไว้ใจ และฉันก็คิดถูก ที่ได้เลือกเค้ามาช่วยดูแลบ้าน” โพสต์เรียบง่าย ไม่มีดราม่า แต่แท็กชื่อเขา…ชัดเจน
วันรุ่งขึ้น มีเพจอสังหาฯ ชื่อดัง ที่เคยตามข่าว “บ้านViral” หลังนี้ Inbox มาขอสัมภาษณ์เบนซ์
“เราอยากสนทนากับคนที่อยู่เบื้องหลังทั้งหมด ว่าความจริงมันเป็นอย่างไร”
เบนซ์นั่งตรง ๆ พูดช้า ๆอธิบายว่าเขาไม่ได้เก่งกว่าคนอื่นแค่ตั้งใจฟังเจ้าของบ้านและทำทุกอย่างเหมือนดูแลบ้านของตัวเอง สัมภาษณ์กันจริงอยู่ที่ 2 ชั่วโมง แต่คลิปสัมภาษณ์ถูกตัดออกมาเป็นความยาว 40 นาที และถูกเผยแพร่ทุก Platform

สิ่งที่ไม่มีใครคาดคิดคือคลิปนี้กลับดังขึ้นมาอย่างเงียบๆถูกแชร์ในกลุ่มนายหน้าเพจอสังหาฯ และแม้แต่เพจของวงการ HR, นักออกแบบ, บริการลูกค้า ฯลฯ
“นี่คือความหมายของคำว่า ‘มืออาชีพ’”
“เบนซ์ไม่ได้ขายแค่บ้าน...แต่เขาเคารพความเป็นเจ้าของของผู้อื่น”
“นี่คือสิ่งที่วงการต้องการมากกว่า content ที่เร้าใจ”
ภายใน 3 สัปดาห์ยอดติดตามของเบนซ์ในแฟนเพจเพิ่มขึ้นหลายพันคน แต่สิ่งที่เปลี่ยนมากกว่านั้น…คือ Inbox
“พี่ตามหานายหน้าแบบนี้มานานแล้วค่ะ”
“รบกวนมาขายบ้านให้พี่หน่อยนะ”
“พี่ยอมเซ็นสัญญาปิดเลยก็ได้”
“ขอแค่น้องช่วยดูแลมันเหมือนบ้านน้องเองก็พอ”
“อยากให้เบนซ์ดูแลบ้านให้”
“บ้านพี่ไม่ได้ขายแพงแต่หาคนที่มีความตั้งใจขายให้”
“ถ้าคุณเบนซ์รับดูแล พวกเราจะไม่คุยกับนายหน้าคนอื่นเลยค่ะ”
เบนซ์อ่านทุกข้อความ ไม่ได้ตอบรวดเร็ว เขายังคงตอบแบบเดิม นัดคุย-เช็กบ้าน-เดินไปดูด้วยตัวเอง เขาไม่รีบ-ไม่หิวแสง-ไม่เร่งดัน

ตอนนี้… เขาไม่ต้อง ตามหา ทรัพย์อีกต่อไป เพราะ “ทรัพย์ที่ดี” เริ่มตามหาเขาแทนแล้ว
“ไม่มีบ้านหลังไหน…ใหญ่เกินความจริงใจ และไม่มีความสำเร็จไหน…ที่แทนความเชื่อใจของเจ้าของบ้านได้” และนั่นแหละคือบทจบของนิทานเรื่องนี้

“บางคนสำเร็จด้วยการแย่งบางคนสำเร็จด้วยการเหยียบแต่บางคน…สำเร็จด้วยความเงียบ ที่หนักแน่นพอจะทำให้ทุกคนอยากเดินตาม”
จบนิทาน EP.7 อย่างสมบูรณ์ รู้นะว่าแอบน้ำตาไหลกันอยู่ ☺️

หัวข้อที่เกี่ยวข้อง

ดูหัวข้ออื่นเพิ่มเติม