ความรู้

ความรู้

เสี่ยงไหม? ผ่อนบ้าน-คอนโดมือสองกับเจ้าของโดยตรง ไม่กู้แบงก์

วันที่สร้างประกาศ เวลาสร้าง 7 สิงหาคม 2568 18:41
เมื่อวันก่อนไปเจอประกาศขายบ้านมือสองในเฟซบุ๊ก โดยเขียนรายละเอียดไว้ว่า “ผ่อนตรงกับเจ้าของ” ซึ่งแน่นอนว่ามีมานานแล้ว โดยเหมาะกับคนที่ไม่อยากกู้ธนาคารหรือเครดิตยังไม่พร้อม…ว่าแต่การผ่อนบ้านหรือคอนโดมือสองกับเจ้าของโดยตรง ไม่กู้แบงก์ จะปลอดภัยไหม? มีความเสี่ยงอะไรหรือเปล่า? วันนี้ Living Insider จะพาไปหาคำตอบ
ผ่อนบ้าน-คอนโดกับเจ้าของโดยตรงทำได้จริงหรือ?
การผ่อนบ้านหรือคอนโดกับเจ้าของโดยตรง คือการที่ผู้ซื้อไม่ต้องขอสินเชื่อจากธนาคาร แต่ทำสัญญาผ่อนชำระกับเจ้าของบ้านแทน คล้ายกับการผ่อนรถหรือของใช้ โดยจะมีการทำสัญญาตกลงกันเรื่องเงินดาวน์ ค่างวด ดอกเบี้ย และเงื่อนไขต่าง ๆ กันเอง
อีกทั้งส่วนใหญ่การผ่อนบ้านกับเจ้าของจะยังไม่มีการโอนกรรมสิทธิ์ทันที บ้านยังเป็นชื่อเจ้าของเดิมไปจนกว่าผู้ซื้อจะจ่ายครบตามที่ตกลงไว้ แต่ด้วยความที่ไม่มีมาตรฐานตายตัว ดังนั้นหากใครตัดสินใจผ่อนบ้านหรือคอนโดกับเจ้าของโดยตรง ควรอ่านและตรวจสอบเอกสารสัญญาอย่างละเอียดก่อนเซ็นต์
ผ่อนบ้าน-คอนโดกับเจ้าของดียังไง?
1. ซื้อบ้านได้แม้ติดแบล็คลิสต์
สำหรับคนที่เคยมีประวัติค้างชำระบัตรเครดิต หนี้สินล้นมือ หรือเคยถูกฟ้องจนชื่อเข้าเครดิตบูโร แบบที่ไปกู้แบงก์ก็โดนปฏิเสธตลอด การผ่อนกับเจ้าของโดยตรงอาจเป็นทางออก ถ้าทั้งสองฝ่ายยอมรับเงื่อนไขกันได้ก็ไม่มีปัญหา เหมาะกับคนที่มีรายได้พอผ่อน แต่ขาดความพร้อมในการขอสินเชื่อกับธนาคาร
2. ไม่มีค่าใช้จ่ายแฝงเหมือนกู้แบงก์
อีกหนึ่งข้อดีของการผ่อนบ้านหรือคอนโดกับเจ้าของโดยตรงก็คือ ไม่มีค่าใช้จ่ายแฝงเหมือนเวลาเราขอสินเชื่อธนาคาร ไม่ว่าจะเป็น ค่าประเมิน, ค่าอากรแสตมป์, ค่าเบี้ยประกันอัคคีภัย ฯลฯ ทำให้ประหยัดงบประมาณในส่วนนี้ไปได้พอสมควร
ผ่อนบ้าน-คอนโดกับเจ้าของโดยตรงเสี่ยงไหม?
1. ดอกเบี้ยอาจแพงกว่าธนาคาร
การขอสินเชื่อธนาคาร จะมีการกำหนดอัตราดอกเบี้ยชัดเจนและมีมาตรฐานกลาง แต่ถ้าผ่อนกับเจ้าของโดยตรง บางเจ้าคิดดอกเบี้ยสูงกว่า เช่น แบงก์คิด 6% ต่อปี แต่เจ้าของตั้งไว้ 10% หรือบางรายอาจไม่บอกอัตราเลย แค่ระบุยอดรวมทุกงวดจบ ทำให้เราไม่รู้เลยว่าจริง ๆ แล้วจ่ายดอกเบี้ยเท่าไหร่
ยิ่งไปกว่านั้น ส่วนใหญ่จะคิดดอกเบี้ยคงที่ เพราะฉะนั้นช่วงไหนที่เศรษฐกิจดี ดอกเบี้ยจะไม่ได้ลดลงเหมือนกับเวลาเรากู้แบงก์แล้วเลือกดอกเบี้ยแบบลอยตัวที่ปรับตาม MRR ทำให้เสียเปรียบในเรื่องนี้
2. ไม่มีมาตรการช่วยเหลือเมื่อเจอวิกฤต
เวลาเราผ่อนบ้านกับธนาคาร ถ้าเจอวิกฤตเศรษฐกิจ เกิดโรคระบาดเหมือนตอนโควิด-19 หรือประสบภัยธรรมชาติ เช่น น้ำท่วม แผ่นดินไหว อย่างน้อยธนาคารก็ยังมีมาตรการพักชำระหนี้ ลดดอกเบี้ย หรือช่วยปรับโครงสร้างหนี้ให้ได้
แต่การผ่อนบ้านกับเจ้าของโดยตรงที่ไม่ได้มีเงื่อนไขเกี่ยวกับเรื่องนี้ในสัญญา หรือเจ้าของไม่ยืดหยุ่น ก็อาจไม่มีทางเลือกอื่นเลยนอกจากต้องจ่ายต่อให้ครบตามงวด เพราะเจ้าของไม่จำเป็นต้องมีมาตรการช่วยใด ๆ ให้เราแบบที่แบงก์ทำ จนท้ายที่สุดถูกยกเลิกสัญญา บ้านก็ไม่มี เงินก็ไม่ได้คืน
3. เจ้าของเอาบ้านไปจำนองโดยไม่บอก
อีกหนึ่งความเสี่ยงของการผ่อนบ้านหรือคอนโดกับเจ้าของก็คือ เราไม่มีสิทธิในตัวบ้านจริง ๆ จนกว่าจะผ่อนครบและโอนกรรมสิทธิ์มาเป็นชื่อเรา ซึ่งในระหว่างนั้นบ้านก็ยังเป็นทรัพย์สินของเจ้าของอยู่ 100% ซึ่งถ้าเจ้าของนำบ้านไปจำนอง โดยที่ไม่บอกเราเลย แล้วภายหลังเกิดผิดนัดชำระจนบ้านถูกยึด เราก็จะต้องเสียทั้งเงินและเวลาขึ้นศาลฟ้องร้องกันอีกยาว
แม้ว่าการผ่อนบ้านหรือคอนโดมือสองกับเจ้าของโดยตรงจะเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับคนติดแบล็คลิสต์ หรือเป็นฟรีแลนซ์ไม่อยากทำเอกสารกับธนาคารให้ยุ่งยาก แต่วิธีนี้เป็นทางเลือกที่เสี่ยงพอสมควร อย่างไรก็ตาม หากตัดสินใจดีแล้วว่านี่เป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์จริง ๆ ขอแนะนำให้ทำสัญญาให้รัดกุม เพื่อป้องกันการเกิดปัญหาตามมาภายหลัง

หัวข้อที่เกี่ยวข้อง

ดูหัวข้ออื่นเพิ่มเติม