ความรู้

ความรู้

นายหน้า ใครที่คิดว่า ดีลเก่ง เจอเจ้าของ เจอลูกค้า ยากแค่ไหนก็จบได้หมด ความจริงแล้ว อาจไม่ใช้เช่นนั้น เพราะยังมีคนคุมอีกคนที่มองไม่เห็น !!!

matching
วันที่สร้างประกาศ เวลาสร้าง 10 กรกฎาคม 2565 12:27
**โพสนี้เป็นนิทาน/เรื่องแต่ง โปรดอ่านเพื่อความบันเทิงเท่านั้น**
.
“คุณเอ็กซ์ วันนี้เราไปดูบ้านแถวสุขุมวิทกันนะ”
ลูกทีมรุ่นพี่โทรมาชวนให้ไปดูเคส
ใจกลางเมืองย่านอโศก
.
เมื่อไปถึงแปลงที่ดินดังกล่าว
เป็นที่ดินสี่เหลี่ยมสวยเลยครับ
เนื้อที่น่าจะประมาณไร่ครึ่ง
หน้ากว้าง 40 เมตรขึ้น
สร้างอะไรก็ได้ สวยงามหมด
.
พื้นที่ด้านหน้าเป็นลานกว้าง
น่าจะจอดรถได้ถึง 10 คัน
จริงๆที่ดินแปลงนี้ควรขายแต่ที่ดิน
ไม่ต้องบอกว่าขายที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างหรอก
เพราะบ้านเก่ามาก
เป็นสไตล์กึ่งปูนกึ่งไม้
อายุไม่น่าต่ำกว่า 30 ปี
.
พื้นที่มีบ้านอยู่ 2 หลัง
หลังใหญ่ขวามือกับหลังเล็กซ้ายมือ
สภาพเก่าพอๆกันทั้งคู่
.
บ้านขวามือมี2ชั้น
ดูโปร่งโล่งสบาย
คิดว่าน่าจะเป็นบ้านหลัก
เลยแวะเข้ามาดูหลังนี้ก่อน
.
ชั้นแรกเป็นพื้นที่ของคนดูแลที่ดิน
พักอาศัยอยู่คนเดียว ณ ปัจจุบัน
.
พอขึ้นมาชั้นสองเป็นบันไดโค้ง
มีห้องนอนอยู่2 ห้อง
พอกำลังจะเข้าห้องนอนหลักเท่านั้นล่ะ....
ขนลุกวาบขึ้นมา
มาล่ะ…channel เปิด
แสดงถึงว่าจะมีบางสิ่งบางอย่าง
อาศัยอยู่ ณ ที่แห่งนี้
.
พบพลังงานบางๆอยู่กลางห้อง
แล้ววิ่งหายไปในขื่อ
แน่นอน เรื่องพวกนี้เริ่มเป็นเรื่องปกติสำหรับผม
.
ทุกที่จะมีเจ้าที่,กลุ่มพลังงาน
หรือเหล่าสัพพเวสีเป็นเรื่องปกติ
ตอนแรกคิดว่าคงเป็นเจ้าบ้านเสียชีวิตอยู่ที่นี่
.
สำหรับเคสนี้
เน้นถ่ายบริเวณรอบบ้านเป็นส่วนใหญ่
ไม่อยากถ่ายรูปบ้านสักเท่าไหร่
เพราะสภาพบ้านมันไม่ดี
ถ่ายไปก็โดนหาเรื่องตัดราคาเปล่าๆ
ชูว่าขายที่ดินคือง่ายกว่า จบๆไป
.
ตอนแรกก็จะกลับละ
แต่เห็นบ้านเล็กทางซ้ายมือ
แล้วรู้สึกอะไรบางอย่าง
เลยบอกทีมงาน
ขอเดินวนเข้าไปข้างหลังบ้านเล็ก
.
ด้านหลังเป็นพื้นที่ห้องพักคนงาน
ประมาณ 3-4ห้อง
สุดทางเป็นพื้นที่ครัว
แล้วมีเค้าเตอร์บาร์ไว้วางอาหาร
เพื่อยกไปเสริฟ์ที่บ้านใหญ่
.
ตรงนี้เริ่มสัมผัสอะไรได้เยอะมากและแน่นมาก
เหมือนมีพลังงานอยู่มากกว่า 5 ตน
ในพื้นที่เล็กๆ
(เริ่มมีความสงสัยเบาๆละ)
.
ด้านหลังมีห้อง + ประตูเยอะมาก
เดินเปิดไปเปิดมา
จนทะลุเข้ามาบ้านเล็กโดยไม่รู้ตัว
.
พอเปิดเข้ามาชั้นนึง
เริ่มมีความรู้สึกหนักอึ้งขึ้นมา
ก็คิดในใจว่า…ตรงนี้น่าจะเยอะ
แต่ก็ยังไม่อยากพูดอะไร
ให้ทีมงานตกใจ
.
มองจากภายนอกเหมือนบ้านจะเล็ก
แต่พอเข้ามาข้างใน พื้นที่กว้างมาก
เป็นบ้าน 3 ชั้น
แต่ชั้นที่ 3 ต้องเดินขึ้นข้างบ้าน
ไม่สามารถขึ้นในตัวบ้านด้วย
โดนรวมกว้างกว่าบ้านใหญ่อีก
แต่ดูอึดอัดมาก
.
ความพีคอยู่ที่
พอกำลังขึ้นบันไดตรงชั้นพัก
แล้วกำลังหันกลับเดินขึ้นอีกครึ่งนึง
เพื่อเดินขึ้นชั้น 2 เท่านั้นแหละ
.
โสตสัมผัสทางหูเกิดทำงาน
ความรู้สึกถึงความเป็น”หูช้าง”
อารมณ์จะเหมือนหูเราขยายใหญ่มาก
ลมเข้าหูซ้ายทะลุหูขวา
แล้วได้ยินเสียงว่า
“อย่ามายุ่งกับที่ของกู”
.
พอเงยหน้าขึ้นไปมองปลายทางบันไดชั้น 2
เห็นเงาทึบจำนวนมาก
ขวางอยู่ปลายบันไดชั้น 2
(ชิบหายล่ะ ยืนขวางเต็มชั้น 2 เลย)
.
แต่เรายังคงเดินขึ้นต่อไป
ปกติพอเดินเข้าใกล้กลุ่มเงา
เค้าก็จะสลายไป
.
แต่กลุ่มนี้พอสลายไป
กลับกลายเป็นกลุ่มเงารวมกันอีกครั้ง
อยู่ตรงหน้าทางเข้าห้องนอนทางซ้ายมือ
ที่ห้องนั้นมีหมอนอยู่ 2 ใบวางอยู่กลางห้อง
ซึ่งพอเราจะเดินเข้าไปในห้องดังกล่าว
.
“ออกไป!!”
เสียงก้องเข้ามาในขมับข้างหูอีกครั้ง
จนเราต้องชะงักหน้าห้อง
.
พอดีทีมงานเดินตามขึ้นมาพอดี
เราชี้นิ้วแล้วบอกทีมงานว่า
“ห้องนั้นพี่ เค้าอยู่ห้องนั้น”
ทีมงานก็งงว่าผมกำลังพูดถึงอะไร
พอทีมงานเข้าใกล้เท่านั้นแหละ
คนที่ไม่มีเซ้นส์เรื่องพวกนี้
กลับขนแขนลุกทันที
.
“ใช่…เค้าแรงมากพี่ ผมว่าเจ้าของตัวจริงอยู่ห้องนั้น”
ผมตะโกนบอกทีมงาน
ระหว่างที่ผมกำลังดูห้องอื่น
.
ทีมงานไม่กล้าเข้าห้องนั้น
แต่พอมีคนเยอะขึ้น
เงาก็วิ่งขึ้นขื่อขึ้นฝ้าตามปกติ
ทำให้ผมกล้าเข้าไปดูว่าห้องนั้นมีอะไร
.
จริงๆห้องนั้นไม่น่าใช่มาสเตอร์เบดรูมนะ
มึห้องน้ำและwalk in closet เล็กๆในตัว
แต่พลังงานรวมอยู่ในนี้สูงมาก
ไม่แน่อาจจะถึง 10 ตน
.
พอหันกำลังจะออกจากห้องนี้
มีกลุ่มเงาจางๆยังยืนขวางอยู่ตรงประตู
ผมก็เดินออกไปแบบไม่สนใจ
.
ผมบอกทีมงานว่า
“บ้านนี้แรงกว่าบ้านใหญ่อีก”
แล้วผมก็รีบเดินออกอย่างรวดเร็ว
.
ผมเดินวนดูชั้น 2 อีกสักพัก
แล้วค่อยออกมานอกตัวบ้าน
ทีมงานรออยู่ข้างล่างแล้ว
เลยวนไปข้างบ้านเพื่อขึ้นชั้น 3 ต่อ
.
ซึ่งชั้น 3 ไม่มีอะไรมาก
มีแต่พลังงานอ่อนๆ
กลิ่นเหมือนเป็นผู้หญิงที่ไม่มีอะไร
.
ลักษณะของชั้น 3
จะว่าเป็นห้องใต้หลังคาก็ไม่เชิง
เหมือนเป็นอีกชั้นนึงมากกว่า
แต่แปลกตรงที่ต้องเข้าข้างบ้าน
เพราะในตัวบ้านไม่มีทางขึ้นชั้น 3
.
หลังจากเดินครบทั้งหมดแล้ว
ผมอยาก…”#ท้าทาย”
“ตะกี้มันคืออะไรวะ”
ตอนนั้นคือจะห้าว/อยากรู้อยากเห็น/อยากลอง
หลายอารมณ์มาก
.
เลยขอทีมงานให้รอข้างนอก
แล้วผมขอเดินขึ้นชั้น 2 อีกรอบ…คนเดียว
ซึ่งทีมงานไม่ขอขึ้นไปด้วยแล้ว
.
พอถึงบันไดตรงชั้นพัก
ก็ได้ยินเสียงผู้หญิงร้องไห้
เหมือนเสียใจอะไรอยู่
.
พอเค้ารู้ว่าผมกำลังขึ้นมาอีกรอบ
กลุ่มเงาโผล่มาอีกรอบ
ในหัวมีแต่เสียงคำว่า”ออกไป”,”อย่า”,”หยุด”
ผมขึ้นไปชั้น2
ด้วยความรู้สึกที่หนักอึ้งกว่าเดิมมาก
คือมันแน่นและอึดอัดไปหมด
.
และเกิดอาการขนหัวลุกเกิดขึ้นอีกครั้ง
หลังจากที่เคยไปตึกที่มีวิญญาณทำแท้งค์
เงาเยอะมากเรียงตัวขวางตรงปลายบันได
และไม่สลายไปด้วย
สัมผัสเหมือนไปชนฟองน้ำขนาดใหญ่
แต่เค้ากลับไม่สลายออกไป
.
ผมขึ้นไปยืนกลางบ้าน
แล้วตะโกนว่า “ขออนุญาตนะครับ” วนไปเรื่อยๆ
ระหว่างนั้นก็ถ่ายรูปทุกห้องอย่างรวดเร็ว
โดยเฉพาะห้องที่มีหมอน 2 ใบอยู่กลางห้อง
แล้วรีบลงมาแบบทันที
.
อาการตอนนั้นคือผมปวดขมับมาก
หูชา หน้าชาไปหมด
ร่างกายส่วนหน้าที่ไปกระทบกับทางนั้น
เย็นวาบไปหมด
.
ผมได้ส่งรูปที่ถ่ายให้กับผู้ใหญ่
ที่สัมผัสเรื่องนี่ได้ดีกว่าผม
แล้วโทรไปถาม
ให้ช่วยดูให้หน่อยว่าเห็นอะไร
.
เสียงปลายสายได้แต่บอกว่า
“อุ้ยย…”
แล้วก็เงียบยาว
“เอาเป็นว่าบ้านหลังนี้อย่าไปยุ่งละกัน ถ้าไม่เชื่อฟัง เค้ากลายเป็นเจ้ากรรมนายเวรเราได้เลยนะ”
นี่คือคำตอบของปลายสาย
ที่ไม่ลงดีเทลอะไรมากนัก
สำหรับเคสนี้
ซึ่งผิดปกติมาก
.
เมื่อคุยโทรศัพท์เสร็จ
ผมเดินวนไปหน้าศาลพระภูมิ
และศาลตายาย
ข้างๆบ้านหลังเล็ก
การแตะดินในพื้นที่บริเวณนั้น
เป็นการขออนุญาตให้ท่านช่วยบอกกล่าว
ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างในที่ดินแปลงนี้
.
ซึ่งได้คำตอบเหมือนกันคือ
“อย่าไปยุ่งเลย ปล่อยเค้าไปเถอะ”
ผมไม่ดื้อและผมไม่ชูดินขึ้นเหนือหัว
แล้วโรยให้หล่นให้ผ่านตา
เพื่อดูด้วยตัวเองแบบทุกครั้ง
.
เมื่อทีมงานเห็นว่าเราเสร็จเรียบร้อยแล้ว
ก็เรียกเราขึ้นรถ
เพื่อพูดคุยถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
.
แต่ยังไม่ออกจากพื้นที่ของที่ดินนั้นนะ
แค่ไม่อยากให้คนดูแลพื้นที่ได้ยิน
ผมก็ได้อธิบายว่าเจออะไรบ้างในนั้น
.
.
.
ไม่แปลกเลยว่าทำไมที่ดินทำเลดีขนาดนี้
ราคาก็พอไปได้
ถึงยังไม่มีคนมาซื้อ
(มีเรื่องราวจากคนพื้นที่เล่าให้ฟังนิดหน่อย…ขอข้ามไป)
.
ถ้าถามว่าแปลงนี้
มีเจ้าที่แรงขนาดนี้
ยังจะมีทางขายได้มั้ย
ขายได้ครับ
แนะนำได้…แต่ไม่ขอยุ่งเกี่ยว
เข้าพื้นที่ได้…แต่ไม่ขอเข้าบ้านหลังเล็กเด็ดขาด
(แต่ก็เอาค่าคอมนะ 555)
.
จนถึงตอนนี้…ผ่านมา 12 ชั่วโมง
ก็ยังรู้สึกปวดขมับ หน้าชา ตัวชาอยู่
วันนี้คงต้องอาบน้ำมนต์ + สวดมนต์ใหญ่
.
เมื่อกลับบ้านมาปะติดปะต่อเรื่องราว
พอสรุปได้ว่า
บ้านหลังใหญ่
น่าจะเป็นบ้านรุ่นลูกรุ่นหลานพักอาศัยอยู่
ส่วนบ้านหลังเล็ก
เป็นบ้านที่น่าจะเป็นคนรุ่นปู่อาศัย
มีปัญหาเรื่องสุขภาพ
ระหว่างรักษาตัวก็มีบริวารมากมายคอยดูแล
ไม่ยอมไปรักษาที่โรงพยาบาล
สุดท้ายมาเสียชีวิตที่บ้าน
เพราะหวงสมบัติ
.
เชื่อว่าเป็นคนที่มีศักดินา บารมี
หรือมียศฐาบรรดาศักดิ์
ถึงมีบริวารมากมายคอยอารักขามากมายขนาดนี้
.
ผมไม่แน่ใจว่าหลังจากที่คนๆนี้เสียชีวิตแล้ว
มีการเสียชีวิตของบริวารอย่างต่อเนื่องรึเปล่า
เพราะการที่เค้าจะทำแบบนั้นได้
จะเป็นในลักษณะของทาสรับใช้
มากกว่าคนรับใช้ทั่วไป
.
แต่ที่แน่ๆ
เค้าสามารถรวมพลังงาน
ให้อยู่ภายใต้อาณัติเค้าได้เยอะขนาดนั้น
แปลว่าเค้าต้องไม่ธรรมดาจริงๆ
.
เอเจ้นท์ที่ไปขายบ้านเค้าสุ่มสี่สุ่มห้า
เห็นราคาบ้านสูงได้ค่าคอมดี
ถ้าขาย…ระวังเค้ามาเอาคืนนะมึงเอ้ยย

#น่ากลัวชิบหาย

.
ปล.ไม่ขอระบุว่าแปลงไหนนะครับ
ไม่อยากไปสร้างความกลัว
เดี๋ยวโดนฟ้อง 😅

หัวข้อที่เกี่ยวข้อง

ดูหัวข้ออื่นเพิ่มเติม